ผลเสียวิตามินB7 หรือไบโอติน มีอะไรบ้างที่ควรรู้

Nuclear
8 ก.ย. 24
16:41
20 views

ผลเสียวิตามินB7 หรือที่รู้จักในชื่อไบโอติน (Biotin) เป็นส่วนหนึ่งของวิตามินบี ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างพลังงาน และการสังเคราะห์สารพันธุกรรม รวมถึงช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิว ผม และเล็บ วิตามินบี7 เป็นที่นิยมในการเสริมอาหาร เพื่อบำรุงสุขภาพร่างกายทั่วไป อย่างไรก็ตาม การได้รับวิตามินบี7 มากเกินไป อาจมีผลเสียต่อร่างกายได้

ผลเสียวิตามินB7 และวิตามินบี7 คืออะไร

วิตามินบี7 หรือไบโอติน เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ และมีบทบาทสำคัญ ในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน นอกจากนี้ ยังมีความสำคัญต่อสุขภาพของผิวหนัง เส้นผม และเล็บ จึงทำให้เป็นส่วนประกอบที่นิยม ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับความงาม วิตามิน B7 ยังมีบทบาทในการส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท และระบบย่อยอาหารด้วย

ผลเสียวิตามินB7 ผลเสียหากได้รับวิตามินบี7 มากเกินไป

แม้ว่าวิตามินบี7 จะเป็นวิตามินที่ไม่สะสมในร่างกาย เนื่องจากร่างกาย จะขับออกทางปัสสาวะ แต่การได้รับในปริมาณที่มากเกินไป จากการเสริมอาหาร อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ เช่นเดียวกับ ผลเสียวิตามินB12 และ ผลเสียวิตามินC โดยอาจมีผลช้างเคียงดังนี้

ปัญหาผิวหนัง: การได้รับไบโอตินในปริมาณสูง อาจทำให้เกิดสิวหรือผื่น เนื่องจากรบกวนการดูดซึมวิตามิน B5 ที่ช่วยลดการเกิดสิว
ปัญหาทางเดินอาหาร: อาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง หรือท้องเสีย โดยเฉพาะเมื่อทานวิตามิน ในขณะท้องว่าง
การรบกวนผลตรวจ ทางห้องปฏิบัติการ: ไบโอตินในปริมาณสูง สามารถรบกวนการตรวจฮอร์โมนต่างๆ เช่นการตรวจต่อมไทรอยด์ และการตรวจหาสัญญาณหัวใจวาย ทำให้ผลการตรวจผิดพลาด
ความไม่สมดุลของสารอาหาร: ไบโอตินมากเกินไป อาจลดระดับของวิตามิน C และ B6 ซึ่งอาจส่งผลต่อสมดุลของสารอาหารในร่างกาย

ที่มา: Biotin Side Effects [1]

ผลเสียวิตามินB7 และอาหารที่มีวิตามินบี7 สูง

ตับ: ตับหมู 100 กรัมมีไบโอตินประมาณ 27 ไมโครกรัม
ไข่: ไข่ต้ม 100 กรัมมีไบโอตินประมาณ 25 ไมโครกรัม
แซลมอน: แซลมอนปรุงสุก 100 กรัมมี Biotin ประมาณ 5 มคก.
ถั่วลิสง: ถั่วลิสง 100 กรัมมี Biotin ประมาณ 17 มคก.
เมล็ดทานตะวัน: เมล็ดทานตะวัน 100 กรัม มีไบโอติน ประมาณ 66 Microgram

ที่มา: 9 อาหารที่มีวิตามินบี [2]

ผลเสียวิตามินB7 วิธีป้องกันการได้รับวิตามินบี7 มากเกิน

หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีปริมาณไบโอตินสูง เกินความจำเป็น
รับประทานอาหารที่สมดุล และหลากหลายจากแหล่งธรรมชาติ
หากต้องการเสริมไบโอติน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
ปริมาณวิตามิน B7 ที่ควรได้รับต่อวัน ปริมาณวิตามิน B7 ที่ควรได้รับสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป อยู่ที่ประมาณ 30 ไมโครกรัมต่อวัน ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร อาจต้องการปริมาณที่สูงขึ้นเล็กน้อย

ผลเสียวิตามินB7 และปริมาณที่ควรได้รับต่อวันตามอายุ

ปริมาณวิตามินบี7 ที่แนะนำให้ได้รับต่อวัน จะแตกต่างกันไปตามอายุ และสถานะสุขภาพ โดยทั่วไปมีการแนะนำปริมาณดังนี้

ทารก 0-6 เดือน: 5 ไมโครกรัมต่อวัน
ทารก 7-12 เดือน: 6 ไมโครกรัมต่อวัน
เด็ก 1-3 ปี: 8 Microgram ต่อวัน
เด็ก 4-8 ปี: 12 Microgram ต่อวัน
เด็ก 9-13 ปี: 20 มคก.ต่อวัน
วัยรุ่น 14-18 ปี: 25 มคก.ต่อวัน
ผู้ใหญ่ 19 ปีขึ้นไป: 30 มคก.ต่อวัน
หญิงตั้งครรภ์: 30 มคก. ต่อวัน
หญิงให้นมบุตร: 35 มคก. ต่อวัน

ที่มา: Biotin [3]

ผลเสียวิตามินB7 และด้านประโยชน์ของวิตามินบี7

เสริมสุขภาพผมวิตามินบี7 มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยจะช่วยเสริมสร้างโปรตีนที่สำคัญในเส้นผม ทำให้ผมแข็งแรง ลดการหลุดร่วง และป้องกันปัญหาผมบาง หรือผมเปราะขาดง่าย
บำรุงเล็บ การรับประทานไบโอตินในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยให้เล็บมีความแข็งแรง ไม่เปราะหรือแตกหักง่าย ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ในผู้ที่ขาดไบโอติน
บำรุงผิวพรรณ ไบโอตินช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณ ลดการอักเสบ และทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้ง หรืออาการผื่นแพ้ โดยการช่วยกระตุ้นการสร้างไขมัน ตามธรรมชาติในผิว
ส่งเสริมการเผาผลาญพลังงาน ไบโอตินเป็นสาระสำคัญ ในการช่วยเปลี่ยนแปลงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันจากอาหาร ที่รับประทานเข้าไป ให้กลายเป็นพลังงาน ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ กระบวนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Metabolism ที่ช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน ในการทำกิจกรรมต่างๆ
เสริมการทำงานของระบบประสาท วิตามินบี7 ช่วยในการทำงาน ของระบบประสาท ทำให้ระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยในการส่งผ่านสัญญาณประสาท ซึ่งส่งผลให้สมอง ทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยในการควบคุมอารมณ์ และการทำงานของระบบประสาททั้งหมด

สรุป ผลเสียวิตามินB7 ควรทานปริมาณที่สมดุล

วิตามินบี7 มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพในหลายด้าน รวมถึงการบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ตามที่ร่างกายต้องการ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการได้รับวิตามินนี้มากเกินไป การรับประทานอาหารที่สมดุล และการปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นวิธีที่ดีในการดูแลสุขภาพ