ผลเสีย คลอไรด์ เกิดขึ้นได้เมื่อระดับคลอไรด์ในร่างกายมีความไม่สมดุล ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำเกินไป โดยคลอไรด์เป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ต่อการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย แต่เมื่อระดับคลอไรด์เกินค่าปกติ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน ตั้งแต่ความผิดปกติปัญหาเรื้อรัง ที่อาจเกิดขึ้นกับอวัยวะสำคัญ
ระดับคลอไรด์ในเลือดที่สูงกว่าปกติ (Hyperchloremia) อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายดังนี้
หากพบว่าระดับคลอไรด์ในเลือดสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
ระดับคลอไรด์ในเลือดที่สูงกว่าปกติ (Hyperchloremia) อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติ หรือสภาวะต่างๆ ในร่างกาย ดังนี้
ที่มา: การวัดระดับคลอไรด์ [1]
คลอไรด์ (Chloride) เป็นไอออนลบ (anion) ที่เกิดจากการแยกตัว ของกรดไฮโดรคลอริก (HCl) ในน้ำ พบได้ในของเหลวต่างๆ ในร่างกาย เช่นน้ำเลือด น้ำเหลือง และน้ำในเซลล์ คลอไรด์มีบทบาทสำคัญในร่างกายดังนี้
คลอไรด์เป็นแร่ธาตุที่พบได้ในอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอาหารที่มีโซเดียมสูง แหล่งอาหารที่มีคลอไรด์สูง ได้แก่
การบริโภคอาหารเหล่านี้ ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายได้รับคลอไรด์เพียงพอต่อความต้องการ [2]
ระดับคลอไรด์ในเลือดที่ต่ำกว่าปกติ (Hypochloremia) อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
ที่มา: คลอไรด์ (Chloride) [3]
ตามข้อมูลจากองค์กรสุขภาพส่วนใหญ่ ปริมาณคลอไรด์ที่แนะนำในแต่ละวัน สำหรับผู้ใหญ่ คือประมาณ 2,300 มิลลิกรัม ซึ่งสามารถได้รับจากอาหารที่บริโภคตามปกติ เช่นเกลือแกง และอาหารที่มีส่วนผสมของโซเดียมคลอไรด์
การตรวจระดับคลอไรด์สามารถทำได้ผ่านการตรวจเลือดหรือปัสสาวะ เพื่อประเมินสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับของเหลวหรือระบบทางเดินอาหาร
ผลเสียคลอไรด์ ไม่ว่าจะในรูปแบบของระดับที่สูงหรือต่ำเกินไป ล้วนส่งผลกระทบ ต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย ทั้งในด้านการทำงานของไต ระบบประสาท การควบคุมสมดุลของของเหลว ดังนั้น การรักษาระดับคลอไรด์ ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ผ่านการดูแลสุขภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญ