
ผลเสีย ทองแดง (Copper) และคุณสมบัติ ประโยชน์
- Fiona
- 67 views

ผลเสีย ทองแดง อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อร่างกายได้รับแร่ธาตุชนิดนี้ ในปริมาณที่เกินความจำเป็น แม้ว่าทองแดงจะเป็นธาตุที่มีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการทำงานต่างๆ ของร่างกาย แต่การได้รับมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ในทางลบ ซึ่งส่งผลทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
ผลเสีย ทองแดง อันตรายจากการได้รับมากเกินขนาด
อันตรายจากการได้รับทองแดงเกินขนาด สามารถส่งผลกระทบดังนี้
- ผลเสียทองแดงอาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้อง การได้รับทองแดงในปริมาณมากเกินไปอาจระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องอย่างรุนแรง
- ท้องเสีย ทองแดงส่วนเกิน สามารถกระตุ้นลำไส้ ทำให้เกิดการขับถ่ายบ่อยผิดปกติ และอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และเกลือแร่
- ปวดศีรษะ และอ่อนเพลีย ระบบประสาทอาจได้รับผลกระทบ จากการสะสมของทองแดง ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ วิงเวียน และอ่อนเพลีย
- ตับอักเสบ และตับวาย การสะสมของทองแดงในตับ ทำให้เกิดความเสียหาย ต่อเนื้อเยื่อตับ นำไปสู่ภาวะตับอักเสบ และอาจรุนแรงถึงขั้นตับวาย
- ไตวายทองแดงส่วนเกิน ส่งผลต่อการทำงานของไต ทำให้ไตทำหน้าที่กรองของเสียได้ลดลง และอาจนำไปสู่ภาวะไตวายได้ ซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับ ผลเสีย โซเดียม
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ การได้รับทองแดงมากเกินไปอาจกระทบต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือด ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- โลหิตจาง ทองแดงเกินขนาด อาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็ก และกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
- ผิวหนังเปลี่ยนสี อาจทำให้ผิวหนังมีลักษณะเปลี่ยนสี เช่นสีคล้ำ หรือสีผิดปกติ จากการสะสมของทองแดงในร่างกาย
ทองแดงคืออะไร เป็นสารเคมีไหม
ทองแดง (Copper) ไม่ได้จัดเป็น “สารเคมี” แต่เป็นธาตุพื้นฐาน ที่ใช้ในการสร้างสารประกอบ และวัตถุต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่นการผลิตสายไฟ เครื่องครัว และวัสดุก่อสร้าง ถือเป็นธาตุที่มีความสำคัญทั้งในเชิงอุตสาหกรรม และสุขภาพของมนุษย์อย่างมาก
ทองแดงเป็นแร่ธาตุ ที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ แม้ว่าจะต้องการในปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่ทองแดงมีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการทางชีวภาพหลายอย่าง เช่นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง การสังเคราะห์โปรตีน และการบำรุงระบบประสาท
ในเชิงเคมี ทองแดงเป็นธาตุเคมีชนิดหนึ่งที่มีสัญลักษณ์ทางเคมีคือ Cu เลขอะตอม 29 จุดหลอมเหลว 1,085°C และจุดเดือด 2,562°C มีคุณสมบัติเด่นในการนำไฟฟ้าและความร้อนได้ดี รวมถึงมีสีแดงอมส้มที่เป็นเอกลักษณ์ ทองแดงจัดอยู่ในกลุ่มโลหะ Transition [1]
ประโยชน์ทองแดง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ทองแดงเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติ และบทบาทสำคัญในหลายด้าน ดังนี้
- การสร้างเม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาว: ทองแดงช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาว และกระตุ้นให้ร่างกายใช้ธาตุเหล็ก เพื่อสร้าง Hemoglobin ซึ่งจำเป็นต่อการนำออกซิเจน ไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
- การทำงานของสมอง และระบบประสาท: ทองแดงมีส่วนสำคัญ ในการทำงานของสมอง และระบบประสาท ช่วยในการส่งสัญญาณประสาท และรักษาสุขภาพ ของเนื้อเยื่อประสาท
- ระบบภูมิคุ้มกัน: ทองแดงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกาย สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อ และโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การเสริมสร้างกระดูก: ทองแดงมีบทบาท ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
- การผลิตพลังงาน: ทองแดงมีส่วนร่วม ในการผลิตพลังงานภายในเซลล์ ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ
- การสร้างคอลลาเจนและ Elastin: ทองแดงทำงานร่วมกับวิตามินซี ในการสร้างคอลลาเจนและ Elastin ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญ ของผิวหนังและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่น และแข็งแรง
ที่มา: ทองแดง อีกหนึ่งแร่ธาตุสำคัญ [2]
ถ้าขาดทองแดงร่างกายจะเป็นอย่างไร
การขาดทองแดงในร่างกาย อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายด้าน เนื่องจากทองแดงมีบทบาทสำคัญ ในการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย โดยอาการ และผลกระทบ จากการขาดทองแดง มีดังนี้
- ภาวะโลหิตจาง (Anemia): การขาดทองแดง ทำให้ร่างกาย ไม่สามารถใช้ธาตุเหล็ก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ระดับทองแดงที่ต่ำ อาจทำให้จำนวนเม็ดเลือดขาวลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ปัญหาทางระบบประสาท: อาจเกิดอาการชาหรือเสียวซ่าน โดยเฉพาะที่มือ และเท้า
- กระดูกเปราะบาง: การขาดทองแดง อาจส่งผลให้กระดูกอ่อนแอ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
- ผมและผิวหนังผิดปกติ: อาจพบผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย หรือผิวหนังซีด
ที่มา: Copper [3]
แหล่งสารอาหารที่มีทองแดงสูง

- อาหารทะเล: กุ้ง หอยนางรม
- เครื่องในสัตว์: ตับวัว ตับไก่
- พืชตระกูลถั่ว: ถั่วลิสง ถั่วแดง
- เมล็ดธัญพืช: เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง
- ผักและผลไม้: มันฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่ง Avocado
ปัจจัยที่ทำให้ขาดทองแดง และปริมาณต่อวัน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ขาดทองแดง เช่นการบริโภคอาหาร ที่มีทองแดงน้อย อาหารแปรรูป หรือการดูดซึมทองแดงผิดปกติ เช่นผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับลำไส้ การได้รับสังกะสี (Zinc) ในปริมาณมาก ซึ่งลดการดูดซึมทองแดง โดยปริมาณทองแดง ที่แนะนำต่อวันมีดังนี้
- ผู้ใหญ่: 900 ไมโครกรัม/วัน
- หญิงตั้งครรภ์: 1,000 ไมโครกรัม/วัน
- หญิงให้นมบุตร: 1,300 ไมโครกรัม/วัน
สรุป ผลเสีย ทองแดง อาจส่งผลต่อตับ ระบบประสาท
ผลเสียทองแดงที่เกิดจากการบริโภคเกินความจำเป็น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของการรักษาสมดุล ของแร่ธาตุในร่างกาย แม้ทองแดงจะเป็นธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพ แต่การบริโภค ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่นความเสียหายของตับ ระบบประสาท หรืออาการพิษจากโลหะ
- Tags: สุขภาพ


