
ผลเสีย แมงกานีส (Manganese) ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย
- Fiona
- 84 views

ผลเสีย แมงกานีส อาจไม่ใช่เรื่องที่หลายคนตระหนัก ในชีวิตประจำวัน แต่การบริโภคหรือได้รับแร่ธาตุนี้เกินความจำเป็น อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ แมงกานีสเป็นแร่ธาตุ ที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย เพื่อสนับสนุนการทำงานของเอนไซม์ การเผาผลาญพลังงาน และการสร้างกระดูก แต่หากได้รับมากเกินไป อาจเกิดผลเสียที่ไม่คาดคิด
ผลเสีย แมงกานีส ความเป็นพิษจากปริมาณมากเกิน
การได้รับแมงกานีส ในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ดังนี้
- ผลเสียแมงกานีสปัญหาทางระบบประสาท อาจเกิดอาการสั่น กล้ามเนื้อกระตุก เดินลำบาก อาการที่คล้ายกับโรค Parkinson
- สะสมในร่างกาย อาจสะสมในตับ สมอง ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ หากได้รับแมงกานีสเกินความจำเป็น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร อาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องได้เช่นเดียวกับ ผลเสีย ทองแดง เมื่อได้รับปริมาณมากเกินไป
- ปัญหาการทำงานของปอด ในบางกรณี ที่ได้รับแมงกานีสในปริมาณสูง อาจส่งผลต่อระบบหายใจ หรือปอด
- การรบกวนการดูดซึมแร่ธาตุอื่นๆ แมงกานีสที่มากเกินไป อาจขัดขวางการดูดซึมของแร่ธาตุ เช่นธาตุเหล็ก และสังกะสี
- ผลกระทบต่อสมอง และอารมณ์ อาจมีผลกระทบต่อสมอง เช่นทำให้เกิดความจำเสื่อม อารมณ์แปรปรวน หรือภาวะซึมเศร้า
- พิษเรื้อรัง การบริโภคแมงกานีสมากเกินไป ในระยะยาว อาจทำให้เกิดพิษเรื้อรัง ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมอย่างรุนแรง
แร่ธาตุแมงกานีส คืออะไร
แมงกานีส (Manganese) เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่มีสัญลักษณ์ทางเคมีคือ Mn และมีเลขอะตอม 25 พบได้ในธรรมชาติ ในรูปของสารประกอบ แมงกานีสมีบทบาทสำคัญ ทั้งในสิ่งมีชีวิต และอุตสาหกรรม
โดยในสิ่งมีชีวิต แมงกานีสเป็นแร่ธาตุ ที่ร่างกายต้องการในปริมาณเล็กน้อย เพื่อช่วยในกระบวนการต่างๆ ในร่างกาย เช่น การเผาผลาญ การสร้างกระดูก และการป้องกันอนุมูลอิสระ [1]
แร่ธาตุแมงกานีส มีประโยชน์อะไรบ้าง
แมงกานีสเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย มีบทบาทสำคัญ ในหลายกระบวนการทางชีวภาพ ดังนี้
- ช่วยกระตุ้นเอนไซม์: แมงกานีสมีส่วน ในการกระตุ้นเอนไซม์ ที่จำเป็นต่อการนำ Biotin วิตามินบี1 และวิตามินซี มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย
- ส่งเสริมการสร้างกระดูก: มีความจำเป็น ต่อการพัฒนาโครงสร้างของกระดูก โดยช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมในร่างกาย และมีส่วนสำคัญ ในการผลิตเลือด
- ช่วยในการเผาผลาญสารอาหาร: มีส่วนในการสังเคราะห์โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ช่วยให้ร่างกายสามารถใช้ Choline ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- สนับสนุนการทำงาน ของระบบประสาท และสมอง: ช่วยเลี้ยงเส้นประสาทและสมอง ทำให้ระบบประสาทและสมอง ทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- มีส่วนในการผลิตฮอร์โมนเพศ: ช่วยในการผลิตฮอร์โมนเพศ และมีความจำเป็น ต่อการปล่อยพลังงานในร่างกาย
- ช่วยในการผลิตน้ำนม: มีความจำเป็น ต่อการผลิตน้ำนม ในหญิงตั้งครรภ์ และช่วยในการสร้างยูเรีย ซึ่งเป็นส่วนประกอบของปัสสาวะ
ที่มา: แมงกานีส คือ ( Manganese ) อะไร [2]
บทบาทของแร่ธาตุแมงกานีสในร่างกาย
แมงกานีสจัดเป็นแร่ธาตุ ที่จำเป็นต่อสุขภาพ และทำหน้าที่ดังนี้
- ช่วยในกระบวนการเผาผลาญ แมงกานีสมีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน โดยทำงานร่วมกับเอนไซม์ เพื่อสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย
- ส่งเสริมการสร้างกระดูก แมงกานีสเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูก ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และการเจริญเติบโตของกระดูก โดยเฉพาะในวัยเด็ก และวัยรุ่น
- ป้องกันอนุมูลอิสระ แมงกานีสทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่ง ของเอนไซม์ที่เรียกว่า Superoxide Dismutase (SOD) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสียหาย ของเซลล์จากอนุมูลอิสระ
- สนับสนุนระบบประสาท แมงกานีสช่วยในการทำงานของระบบประสาท โดยเฉพาะในการส่งสัญญาณ ระหว่างเซลล์ประสาท และการควบคุมสมดุล ทางเคมีในสมอง
แมงกานีสมีในอาหารอะไรบ้าง

แมงกานีสเป็นแร่ธาตุ ที่พบได้ในอาหารหลากหลายประเภท ดังนี้
- หอยแมลงภู่: หอยแมลงภู่ปรุงสุก 85 กรัมมีแมงกานีสประมาณ 5.8 มิลลิกรัม
- ข้าวกล้อง: ข้าวกล้องหุงสุก 1 ถ้วยหรือ 195 กรัมมีแมงกานีสประมาณ 2.1 มิลลิกรัม
- Hazelnut: เมล็ดHazelnut 56 กรัมมีแมงกานีสประมาณ 3.1 มิลลิกรัม
- ขนมปัง Whole Wheat: ขนม Whole Wheat 1 แผ่น (28 กรัม) มีแมงกานีส 0.7 milligram
- เต้าหู้: เต้าหู้ครึ่งถ้วย (126 กรัม) มีแมงกานีส 1.5 milligram
- ปลากะพง: ปลากะพงปรุงสุก 85 กรัม มีแมงกานีส 1.0 milligram
- เมล็ดฟักทอง: เมล็ดฟักทอง 1 ถ้วย (129 กรัม) มีแมงกานีสอยู่ประมาณ 5.9 มก.
- ชาดำ: ชาดำ 1 ถ้วย (237 กรัม) มีแมงกานีสอยู่ประมาณ 0.5 มก.
- ผักโขม: ผักโขมสุก 1 ถ้วย (180 กรัม) มีแมงกานีสที่ 1.7 mg.
- ถั่วลิมา: ถั่วลิมา 1 ถ้วย (170 กรัม) มีแมงกานีสที่ 2.1 mg.
การบริโภคอาหารเหล่านี้ จะช่วยให้ร่างกายได้รับแมงกานีส ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ [3]
ผลเสียจากการขาดแมงกานีส
แมงกานีสเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย การขาดแมงกานีส อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนี้
- การเจริญเติบโตของกระดูกบกพร่อง: แมงกานีสมีบทบาทสำคัญ ในการสร้าง และรักษาความแข็งแรงของกระดูก การขาดแมงกานีส อาจทำให้กระดูกอ่อนแอ หรือเกิดความผิดปกติได้
- ความทนทานต่อกลูโคสลดลง: การขาดแมงกานีสอาจทำให้ร่างกาย ไม่สามารถจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
- ผื่นผิวหนัง: การขาดแมงกานีส อาจทำให้เกิดผื่น หรือปัญหาผิวหนังอื่นๆ
- การเปลี่ยนแปลงของเส้นผม: อาจทำให้สี หรือเนื้อผมเปลี่ยนแปลง
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: ระบบภูมิคุ้มกันอาจอ่อนแอลง ทำให้ร่างกาย เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
- การสมานแผลบกพร่อง: แผลอาจหายช้ากว่าปกติ
สำหรับปริมาณที่แนะนำของแมงกานีสแตกต่างกันไปตามอายุและเพศ เด็ก 1-3 ปี 1.2 มิลลิกรัมต่อวัน เด็ก 4-8 ปี: 1.5 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ชายวัยผู้ใหญ่: 2.3 มิลลิกรัม/วัน ผู้หญิงวัยผู้ใหญ่: 1.8 มิลลิกรัม/วัน และสำหรับหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร อาจต้องการแมงกานีสมากขึ้น
สรุป ผลเสีย แมงกานีส ต่อระบบประสาท สุขภาพจิต และปอด
ผลเสีย แมงกานีส ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายในคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่สัมผัส หรือบริโภคในปริมาณสูง อาจเผชิญกับผลกระทบต่อปัญหาทางระบบประสาท ปอด ระบบทางเดินอาหาร และสุขภาพจิต การใส่ใจในปริมาณที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงแหล่งที่เสี่ยง ต่อการสะสมเกินจำเป็น จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องสุขภาพในระยะยาว
- Tags: สุขภาพ


