พริกหวานแดงไลโคปีน (Red Bell Pepper) เป็นผักที่มีสีสันสดใส และมีรสชาติหวานอร่อย นอกจากจะเป็นส่วนประกอบ ที่เพิ่มความสวยงาม ให้กับอาหารแล้ว พริกหวานแดง ยังมีประโยชน์ ทางโภชนาการมากมาย หนึ่งในสารอาหารที่โดดเด่น ในพริกหวานแดง คือไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
Red Bell Pepper เป็นสมาชิกของตระกูล Solanaceae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับมะเขือเทศ และมันฝรั่ง พริกหวานแดงมีรูปร่าง เป็นทรงกลม มีเปลือกเรียบ และเงา เมื่อสุกเต็มที่ สีของพริก จะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ภายในมีเมล็ดเล็กๆ ที่สามารถนำไปเพาะปลูกได้
พริกหวานแดงมีรสชาติหวาน ไม่เผ็ด เนื้อของพริก กรอบอร่อย ทำให้เหมาะกับการบริโภคสด หรือใช้ในการปรุงอาหาร หลายประเภท พริกหวานแดงสามารถซื้อได้ทั่วไป ในตลาดสด ร้านผักผลไม้ หรือทางออนไลน์ ตัวอย่างเช่น Makro พริกหวานแดงปริมาณ 1 กิโลกรัม ราคา 132 บาท [1]
ไลโคปีนเป็นสารประกอบ ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งเป็นสารสีธรรมชาติ ที่ให้สีแดง และสีส้มในผักและผลไม้ เช่น มะเขือเทศ แตงโม และพริกหวานแดง ไลโคปีนมีคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกัน การเกิดความเสียหายของเซลล์ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ทำให้ลดความเสี่ยง ของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
โดยในพริกหวานสีแดง จะมีปริมาณไลโคปีน อยู่ที่ประมาณ 1.5 มิลลิกรัมถึง 8.6 มิลลิกรัมต่อปริมาณ 100 กรัม [2]
ปริมาณที่แนะนำ สำหรับการบริโภคไลโคปีน คือประมาณ 10 มิลลิกรัมต่อวัน โดยควรได้รับ จากแหล่งอาหาร ตามธรรมชาติ เช่น พริกหวานสีแดง, มะเขือเทศ, แตงโม, และผลไม้สีแดงอื่นๆ เนื่องจากไลโคปีน จากอาหารธรรมชาติเช่น มะเขือเทศมีไลโคปีน จะมีประสิทธิภาพ ในการดูดซึม และใช้ประโยชน์ ได้ดีกว่าอาหารเสริม [3]
พริกหวานแดงไม่เพียงแต่มีรสชาติหวานอร่อย และเพิ่มสีสันให้กับอาหาร แต่ยังเป็นแหล่งที่ดี ของไลโคปีน ซึ่งมีประโยชน์ ต่อสุขภาพในหลายๆด้าน การเพิ่มพริกหวานแดง ในอาหารประจำวัน สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพ และลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ