
สารให้กลิ่นหอม พืชอะไรที่มี Limonene สูง
- Fiona
- 20 views

พืชอะไรที่มี Limonene สูง เป็นคำถามที่หลายคน อาจนึกถึงกลิ่นหอมสดชื่นแบบ Citrus ที่เรามักจะคุ้นเคยเวลาแกะส้ม หรือบีบเลมอน ความหอมแบบเปลือกผลไม้ ที่กระจายออกมา ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายนั้น เกี่ยวกับพืชบางกลุ่มโดยเฉพาะ ซึ่งพบได้ทั้งในผลไม้ สมุนไพร และพืชเครื่องเทศในชีวิตประจำวัน หลายชนิดอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
- ลิโมนีน คืออะไร?
- ประโยชน์ของลิโมนีน
- พืชอะไรที่มี Limonene สูง
สารธรรมชาติ ลิโมนีน คืออะไร?
ลิโมนีนคือสารให้กลิ่นหอม ตามธรรมชาติ ที่พบมากในผิวผลไม้ ตระกูลส้ม เช่นส้ม เลมอน และมะนาว ลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีกลิ่นฉุน แต่จะให้กลิ่นหอมสดชื่นแบบ Citrus จึงถูกนำไปใช้ในน้ำมันหอมระเหย น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองต่างๆ ที่ต้องการกลิ่นสดชื่นเป็นพิเศษ
ลิโมนีนยังมีรูปแบบโครงสร้าง ที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งส่งผลต่อโทนกลิ่นเช่น d-limonene ที่พบมากในเปลือกส้ม จะให้กลิ่นหวานสดใส ในขณะที่ l-limonene ที่พบในต้นสน จะให้โทนกลิ่นออกเย็น คล้ายสมุนไพรเล็กน้อย ลิโมนีนถูกใช้หลากหลาย ทั้งในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอาง และน้ำมันหอมระเหย (11 ตุลาคม 2025) [1]
ประวัติ ลิโมนีน การค้นพบครั้งแรก
ลิโมนีนได้รับการจัดอยู่ในกลุ่ม Terpenes มาตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุค ที่นักเคมีเริ่มสนใจโครงสร้าง ของสารประกอบ จากน้ำมันหอมระเหยในพืช โดยเฉพาะงานของ Otto Wallach ในช่วงปี 1880–1890 ที่วางพื้นฐานด้านเคมี Terpenes และทำให้เกิดความเข้าใจ เกี่ยวกับองค์ประกอบ กลิ่นธรรมชาติของพืช
ก่อนที่เขาจะได้รับรางวัลโนเบล สาขาเคมีในปี 1910 จากผลงานด้านนี้ ช่วงเวลานั้น จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ที่ทำให้ลิโมนีน ถูกระบุ และตั้งชื่อโดยอ้างอิงจาก lemon ซึ่งเป็นแหล่งที่กลิ่นชัดเจนที่สุด ต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะช่วงปี 1940 การผลิตลิโมนีน เริ่มขยายสู่ระดับอุตสาหกรรม
มีการพัฒนาวิธีสกัด จากเปลือกส้ม และเศษเหลือ จากโรงงานน้ำผลไม้ ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกาปี 1941–1942 เป็นช่วงที่มีการผลิตเชิงพาณิชย์ และในปี 1946 การสกัดลิโมนีน จากเปลือกส้ม ได้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบผลไม้เหลือใช้ ทำให้ลิโมนีน กลายเป็นสารหอม ที่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย จนถึงปัจจุบัน (29 ตุลาคม 2025) [2]
ประโยชน์ของลิโมนีนคืออะไร?
- ช่วยลดการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ ลิโมนีนมีคุณสมบัติ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด
- อาจมีบทบาท ในการลดความเสี่ยง มะเร็งบางชนิด ในงานวิจัยบางส่วนพบว่า ลิโมนีนอาจช่วยยับยั้ง การเติบโตของเซลล์มะเร็ง และมีรายงานว่า การบริโภคเปลือกส้ม ซึ่งมีลิโมนีนสูง อาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังบางชนิดที่ลดลง แต่ยังต้องการข้อมูลยืนยัน ในมนุษย์มากขึ้น
- อาจช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ การทดลองในสัตว์พบว่า ลิโมนีนอาจช่วยลดระดับไขมัน LDL และไตรกลีเซอไรด์ รวมถึงอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- ช่วยส่งเสริมการย่อยอาหาร มีงานวิจัยที่พบว่า ลิโมนีนอาจช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อย หรือลดโอกาสการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ในสัตว์ทดลอง จึงมีการนำไปใช้ ในผลิตภัณฑ์เสริมบางชนิด
- ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย การสูดดมน้ำมันหอมระเหย ที่มีลิโมนีน เช่นกลิ่นส้ม หรือเลมอน อาจช่วยลดความตึงเครียด ทำให้รู้สึกสงบขึ้น และให้ความรู้สึกสดชื่น
ที่มา: What Is Limonene? Everything You Need to Know (13 กรกฎาคม 2023) [3]
พืชอะไรบ้างที่มีลิโมนีนสูง?

- เปลือกส้ม เป็นแหล่งลิโมนีนที่มากที่สุด กลิ่นหอมหวานสดชื่นชัดเจน นิยมสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย และใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายหลายชนิด
- เปลือกเลมอนและมะนาว ลิโมนีนยังพบสูงรองลงมา ให้กลิ่นเปรี้ยวสดใส แบบคลีนๆ มักใช้ในชาร้อน น้ำผึ้งผสมมะนาว รวมถึงเครื่องหอม ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น
- Mandarin Orange กลิ่นจะนุ่ม และหวานกว่าเลมอน ให้ความรู้สึกอบอุ่น และผ่อนคลาย เหมาะกับการทำ Aromatherapy หรือขูดผิวแต่งรสในอาหาร และของหวาน
- เกรปฟรุต ให้กลิ่นซิตรัสแบบโปร่ง และสดใส แต่มีโทนเปรี้ยวขมนิดๆ นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์สปา สครับผิว และเครื่องสำอาง ที่ให้ความรู้สึกเฟรช
- ใบและเมล็ดผักชีลาว เมล็ดยี่หร่า แม้กลิ่นจะไม่ออกซิตรัสมาก แต่มีลิโมนีนในโทนสมุนไพร ใช้ปรุงกลิ่นในอาหาร และใช้ในน้ำมันหอมระเหย เพื่อช่วยลดอาการท้องอืด หรือแน่นท้อง
- สะระแหน่ เปปเปอร์มิ้นต์ และโรสแมรี่ มีลิโมนีนในระดับปานกลาง กลิ่นจะออกเย็น หรือสมุนไพรสดชื่น เหมาะสำหรับชงชา สูดดมเพื่อผ่อนคลาย หรือใช้ผสมในเครื่องดื่ม เพื่อเพิ่มความสดชื่น
- มะกรูด พบลิโมนีนพอสมควร แต่กลิ่นจะเข้ม และเขียวกว่า กลิ่นโดดเด่นเฉพาะตัว ใช้ในอาหารไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์สปา เพื่อให้กลิ่นสดชื่น แบบสมุนไพร
ข้อเสียของลิโมนีนคืออะไร?
- อาจทำให้ระคายเคืองผิวหนัง เมื่ออยู่ในรูปน้ำมันหอมระเหยเข้มข้น หากทาบนผิว โดยไม่เจือจาง อาจทำให้เกิดผื่น คัน หรือแดง โดยเฉพาะคนผิวแพ้ง่าย จึงควรผสมกับ carrier oil ก่อนใช้บนผิว
- ไวต่อแสงเมื่อใช้บนผิว ผลิตภัณฑ์หรือสาร ที่ได้จากผิวส้มบางชนิด อาจทำให้ผิวไวต่อแสงได้ หากทาแล้วออกแดดทันที อาจทำให้ผิวคล้ำ หรือไหม้ได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการออกแดด หลังใช้ทันที
- อาจทำให้ระคายเคือง ระบบทางเดินหายใจ การสูดดมน้ำมันหอมระเหย ที่เข้มข้นเกินไป หรือใช้ในห้องที่ปิดทึบ อาจทำให้รู้สึกแสบจมูก ไอ หรือเวียนหัวได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หรือหอบหืด
- อาจรบกวนระบบย่อยอาหาร หากได้รับมากเกินไป การบริโภคในปริมาณสูง อาจทำให้แสบท้อง กรดไหลย้อน หรือปวดท้องได้ ผู้ที่มีปัญหากระเพาะ ควรระมัดระวัง
- ปฏิกิริยากับยา ในบางราย มีรายงานว่าลิโมนีน อาจรบกวนการทำงาน ของเอนไซม์ตับบางชนิด ที่ช่วยกำจัดยาออกจากร่างกาย ดังนั้นผู้ที่กำลังใช้ยาประจำ ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริม ที่มีลิโมนีนเข้มข้น
ใครที่ควรระวังสารลิโมนีนเป็นพิเศษ?
ผู้ที่ควรระวังสารลิโมนีนเป็นพิเศษ ได้แก่คนที่มี ผิวแพ้ง่ายหรือเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง เพราะลิโมนีนในรูปน้ำมันหอมระเหยเข้มข้น อาจทำให้ผิวแดง คัน หรือระคายเคืองได้ นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หรือไวต่อกลิ่น ควรระวังการสูดดม ในปริมาณมาก เพราะอาจกระตุ้นให้หายใจติดขัด
รวมถึงผู้ที่มีกรดไหลย้อน หรือปัญหากระเพาะอาหาร เพราะการรับประทาน ในปริมาณสูง อาจกระตุ้นอาการได้ และ ผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมลิโมนีน เนื่องจากอาจมีผลต่อการทำงานของตับ ที่เกี่ยวกับการกำจัดยาออกจากร่างกาย
สรุปแล้ว พืชอะไรที่มีลิโมนีนสูง
ลิโมนีนคือสารให้กลิ่นหอมสดชื่นที่พบมากใน เปลือกส้ม เลมอน มะนาว ส้มแมนดาริน เกรปฟรุต รวมถึงสมุนไพรอย่างผักชีลาว ยี่หร่า สะระแหน่ เปปเปอร์มิ้นต์ โรสแมรี่ และมะกรูด ซึ่งใช้ได้ทั้งในอาหาร และในผลิตภัณฑ์เพื่อการผ่อนคลาย มีประโยชน์ทั้งด้านการลดการอักเสบ การช่วยย่อย ช่วยให้รู้สึกสงบ
ผิวไหม้จากสารลิโมนีนรักษายังไง?
หากผิวไหม้ หรือระคายเคืองจากลิโมนีน ให้เริ่มจากหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทันที และล้างบริเวณที่สัมผัส ด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลืออ่อนๆ จากนั้นประคบเย็น เพื่อช่วยลดอาการแสบร้อน หลีกเลี่ยงการขัดผิว น้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ ใช้ครีมว่านหางจระเข้ เซราไมด์หรือแพนทีนอล เพื่อช่วยฟื้นฟูผิว
ทานลิโมนีนยังไงให้ปลอดภัย?
ทานลิโมนีนให้ปลอดภัย ควรเน้นการได้รับจากอาหารตามธรรมชาติ มากกว่ารูปแบบสกัด หรืออาหารเสริม การขูดผิวเล็กน้อยใส่ในอาหาร หรือเครื่องดื่ม จะทำให้ได้กลิ่น และสารตามธรรมชาติ ในระดับที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป หากใช้ในรูปแบบน้ำมันหอมระเหย ไม่ควรหยดรับประทานตรงๆ เพราะเข้มข้นเกินไป
- Tags: สุขภาพ


