
สมองกับการ คาดเดาอนาคต ในการเดิมพัน เป็นอย่างไร
- J. Kanji
- 23 views

สมองกับการ คาดเดาอนาคต ในการเดิมพัน คือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เราทายผล หรือกดปุ่มในเกมเดิมพัน สมองของเรากำลังทำสิ่งเดียวกันคือ “คาดเดาอนาคต” แม้จะรู้ว่าผลลัพธ์คือความสุ่ม แต่สมองก็ยังพยายามหากฎ หรือรูปแบบที่ซ่อนอยู่ การเดิมพันเลยกลายเป็นเวทีที่สมอง ได้ทำในสิ่งที่มันถนัด นั่นคือคาดการณ์ และหวังผล
สมองคือเครื่องคำนวณความคาดหวัง
แนวคิดเรื่องสมองเป็นเครื่องคาดเดา มีหลักฐานจากงานคลาสสิกของ Schultz ปี 1997 ในวารสาร Science ที่พบว่า การหลั่งโดปามีนในสมองส่วน Ventral Striatum จะพุ่งขึ้นเมื่อรางวัลเหนือความคาดหมาย และลดลงเมื่อผลลัพธ์ ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ (มีนาคม 2016) [1]
พูดง่าย ๆ คือ สมองจะคอยเปรียบเทียบ ระหว่างสิ่งที่เราคาดไว้ กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ถ้าเราทายถูก มันจะจำว่า “แบบนี้ดี” แต่ถ้าทายผิด มันก็จะปรับรูปแบบใหม่ แล้วลองอีกครั้ง เป็นวงจรที่ไม่มีวันหยุด เพราะสมองชอบความรู้สึกของการ “ใกล้รู้คำตอบ” มากกว่าการรู้จริง ๆ เสียอีก
นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานว่า การทำงานของสมองส่วนนี้ เกี่ยวพันกับแรงจูงใจ ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น การรอผลสอบ หรือรอการยืนยันบางอย่าง สมองจะหลั่งโดปามีนลักษณะเดียว กับตอนคาดหวังผลการเดิมพัน แปลว่าสมองใช้ “สูตรเดียวกัน” กับทุกความคาดหวัง ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่ หรือเล็กก็ตาม
สมองเรียนรู้การเดิมพันแบบสองระบบ
สมองตอน หลุดโฟกัส ในคาสิโน มักเกิดขึ้นเมื่อเราเผลอให้ความตื่นเต้น และเสียงรอบข้างเข้าครอบงำ จนสมองเริ่มตัดสินใจ โดยใช้อารมณ์แทนเหตุผล นักประสาทวิทยาแบ่งการตัดสินใจของสมอง ออกเป็นสองระบบ คือ ระบบเร็ว (System 1) ใช้อารมณ์และสัญชาตญาณ และระบบช้า (System 2) ใช้เหตุผลและตรรกะ
เวลาที่เราอยู่ในบรรยากาศ ของการเดิมพัน สมองมักปล่อยให้ระบบเร็ว เป็นฝ่ายนำ เพราะโดปามีนที่หลั่งออกมา ทำให้เราตื่นเต้น และอยากตัดสินใจทันที งานของ Clark et al. ปี 2009 เคยใช้ fMRI ศึกษา พบว่าเมื่อผู้เล่นอยู่ในจังหวะ “เกือบชนะ” สมองส่วน Insula และ Ventral Striatum จะทำงานแรงขึ้น รู้สึกเหมือน “เราน่าจะชนะได้” (5 พฤษภาคม 2010) [2]
นักวิจัยยังพบว่าในช่วงเวลาแบบนี้ สมองส่วนที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล (System 2) จะเงียบลงชั่วคราว เหมือนปล่อยให้ความรู้สึก เป็นฝ่ายตัดสินใจแทนเหตุผล ทำให้เราตอบสนองโดยไม่คิด ซึ่งเป็นกลไกเดียวกับ ตอนที่เราซื้อหวยเลขเดิม หรือกดปุ่มเล่นอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งแพ้เมื่อกี้
ภาพลวงของความแน่นอน (Illusion of Control)

มนุษย์มักเข้าใจผิดว่าตัวเอง ควบคุมสิ่งที่เกิดจากความบังเอิญได้ ความเชื่อนี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่ยุคของ Ellen Langer ปี 1975 ที่ทดลองให้คนทอยลูกเต๋า แล้วพบว่าคนที่เชื่อว่าตัวเองควบคุมลูกเต๋าได้ จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นทันที แม้ผลจะสุ่มล้วน ๆ (15 ธันวาคม 2021) [3]
ในมุมของสมอง ภาพลวงนี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของ DLPFC หรือสมองส่วนที่ใช้วางแผน และตัดสินใจ เมื่อสมองส่วนนี้ถูกกระตุ้น จากความตื่นเต้นของรางวัล มันจะเริ่มหลอกตัวเองว่า “เราน่าจะควบคุมได้” ทั้งที่จริงแล้วทุกอย่าง คือการเสี่ยงทาย
สิ่งที่น่าสนใจคือ ภาพลวงแบบนี้ไม่ได้เกิดแค่ในคาสิโน แต่เกิดในชีวิตประจำวัน เช่น เวลาข้ามถนน แล้วกดปุ่มไฟเขียว ทั้งที่ปุ่มนั้นไม่ได้เชื่อมระบบจริง ๆ หรือเวลารอเครื่องบิน แล้วเคาะโต๊ะเบา ๆ เพราะรู้สึก “ทำอะไรบางอย่าง” จะช่วยให้รอไม่นานขึ้น นี่แหละคือสมองกำลังสร้างภาพลวง ของการควบคุมอยู่เงียบ ๆ
เมื่อสมองคาดเดาเกินขีดจำกัด
งานของ Reuter et al. (2005) พบว่าในกลุ่มคนที่มีพฤติกรรม การพนันผิดปกติ สมองส่วน Ventral Striatum ตอบสนองต่อรางวัล ลดลงเฉลี่ยราว 20–25% เมื่อเทียบกับคนทั่วไป หมายความว่าความรู้สึกตื่นเต้น จากการชนะลดลงเรื่อย ๆ สมองเลยพยายามหาทางกระตุ้นตัวเอง ด้วยการเล่นซ้ำ
เพื่อให้ได้โดปามีน กลับมาระดับเดิม นี่คือเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึง “อยากลองอีกสักตา” ทั้งที่รู้ว่าโอกาสชนะเท่าเดิม เพราะสมองไม่ได้หาคำตอบ แต่มันหาความรู้สึก ที่เคยได้จากการคาดเดา
นักจิตวิทยายังพบว่าความรู้สึก “เกือบชนะ” หรือ near-miss มีอิทธิพลสูงมาก สมองจะปล่อยโดปามีน ในระดับเกือบเท่ากับตอนชนะจริง ๆ ซึ่งทำให้ผู้เล่นเข้าใจผิดว่าตัวเอง กำลังเข้าใกล้ชัยชนะ ทั้งที่จริงแล้วเป็นแค่ภาพลวง ทางสมองเท่านั้น
สมองกับการเรียนรู้จากความผิดพลาด
ปกติสมองส่วน Anterior Cingulate Cortex (ACC) จะคอยตรวจจับความผิดพลาด และสั่งให้เราปรับพฤติกรรม แต่ในการพนัน กลไกนี้มักถูกโดปามีนรบกวน โดยเฉพาะตอนที่ “เกือบชนะ” สมองจะไม่มองว่านั่นคือการแพ้ แต่มองว่า “เราน่าจะทำได้” แล้วลองซ้ำอีก
เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อย ๆ สมองจะเริ่มชินกับความเสี่ยง จนสัญญาณเตือนจาก ACC ลดลงไป ทำให้เรายังเดิมพันซ้ำ แม้รู้ว่าโอกาสชนะ ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย ประหนึ่งว่าสมองเรียนรู้ที่จะเพิกเฉย ต่อสัญญาณเตือน เพราะความคุ้นชินกับความเสี่ยง
บางงานวิจัยใหม่ ๆ ยังชี้ว่าคนที่มีการทำงานของ ACC ต่ำมักมีแนวโน้มทำพฤติกรรมซ้ำแม้รู้ผลเสีย เช่น ซื้อของออนไลน์ซ้ำ แม้จะพลาดไปแล้ว หรือรีเฟรชหุ้นหลังจากขาดทุน ทั้งหมดสะท้อนกลไกเดียวกับการเดิมพัน ที่สมองพยายาม “แก้มือ” แม้ไม่มีหลักเหตุผลรองรับ
สมองกับการคาดเดาอนาคตในยุคใหม่
การรวบรวมงานวิจัย fMRI มากกว่า 40 ชิ้นในช่วงปี 2021–2023 พบว่า สมองส่วน Ventral Striatum และ Insula คือศูนย์กลางของการตอบสนอง ต่อความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเสี่ยงโชค เกม หรือการลงทุน สมองจะหลั่งโดปามีน ตั้งแต่ก่อนรู้ผลลัพธ์จริงเสียอีก
นั่นแปลว่า สมองของเราจริง ๆ อาจไม่ได้ “ติดการพนัน” แต่ “ติดการคาดเดาอนาคต” มากกว่า เพราะทุกครั้งที่เราทายผล สมองจะได้รางวัลเล็ก ๆ จากความรู้สึกว่า “ฉันกำลังใกล้จะรู้คำตอบแล้ว”
ในแวดวงเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ยังเชื่อมโยงผลลัพธ์นี้ เข้ากับการตัดสินใจลงทุน และเล่นหุ้น เพราะวงจรสมองเดียวกันนี้ แสดงออกในพฤติกรรมเสี่ยงทุกแบบ ตั้งแต่การเทรดสั้น จนถึงการเล่นเกมออนไลน์ ที่มีระบบสุ่มรางวัล ซึ่งทั้งหมดคือการ “เดิมพัน” ในรูปแบบต่างกันเท่านั้น
สรุป สมองกับการ คาดเดาอนาคต ในการเดิมพัน
สมองของเราเป็นเครื่องคาดเดา ที่พยายามทำให้โลกนี้เข้าใจได้ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มแค่ไหนก็ตาม การรู้เท่าทันกลไกโดปามีน และภาพลวงของความแน่นอน ช่วยให้เราเล่นอย่างมีสติ และเข้าใจว่าความเสี่ยงที่แท้จริงนั้น ไม่ได้อยู่ในเกม แต่อยู่ในสมองของเราเอง
สมองรู้ไหมว่าการเดิมพัน คือเรื่องของโชค ?
รู้ แต่รู้แค่ในระดับเหตุผล ส่วนอารมณ์มันยังคงรู้สึกว่า ควบคุมได้อยู่ดี สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุผลอย่าง Prefrontal Cortex จะเข้าใจว่า “นี่คือเกมแห่งความน่าจะเป็น” แต่ในขณะเดียวกันสมองส่วน Limbic System ซึ่งเกี่ยวข้องกับอารมณ์ จะยังคงรู้สึกว่าตัวเอง มีอิทธิพลบางอย่างอยู่เสมอ จึงเกิดความรู้สึกมั่นใจ แม้ไม่มีหลักฐานรองรับ
ทำไมถึงยังเล่นต่อ ทั้งที่เคยแพ้ ?
เพราะสมองจำช่วง “เกือบชนะ” ไว้เป็นสัญญาณดี มากกว่าความล้มเหลว เลยอยากลองอีก สมองตีความว่า “ถ้าเมื่อกี้ใกล้ได้ แปลว่าครั้งหน้าต้องได้แน่” นี่เป็นการเรียนรู้แบบผิดทาง ที่เกิดจากโดปามีน ซึ่งทำให้ผู้เล่นเข้าใจว่า ความพยายามจะส่งผล แม้ในเกมที่ไม่มีรูปแบบ ให้จับได้เลยก็ตาม


