
หุ่นยนต์ ช่วยเหลือ ทางการแพทย์ มีประโยชน์อย่างไร
- MY Kismet
- 7 views

หุ่นยนต์ ช่วยเหลือ ทางการแพทย์ มีประโยชน์อย่างไร สำหรับตอนนี้ เมื่อกำลังก้าวสู่ปี 2025 ถือได้ว่าเป็นปี ที่มีการพัฒนา ทางเทคโนโลยีขั้นสูง เพราะมีหลายนวัตกรรม ที่ได้เริ่มต้น การใช้งานในปีนี้ รวมไปถึง ในวงการแพทย์ ก็เริ่มมีการใช้ หุ่นยนต์ช่วยเหลือ เข้ามาใช้งานแล้ว และเราจะนำเสนอเรื่องนี้
- อนาคตทางการแพทย์และปัญหาขาดแคลนแพทย์
- ความรู้สึกของผู้ป่วยและประเภทของหุ่นยนต์ทางการแพทย์
- ลักษณะเฉพาะของหุ่นยนต์และข้อจำกัด
การอนุมานการเติบโต ของเทคโนโลยีการแพทย์
หุ่นยนต์ตัวแรก ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา ในสาขาการแพทย์ ได้มีการเริ่มสร้าง และเริ่มใช้เมื่อ ทศวรรษ 1980 เป็นหุ่นยนต์ที่ช่วยเหลือ สำหรับการผ่าตัด แบบแขนกล และในช่วงหลังจากนั้น ในวงการแพทย์ การเลือกใช้เทคโนโลยี ในการรักษา ก็เริ่มมีการพัฒนา เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น AI จำลองผ่าตัด
สำหรับหุ่นยนต์ ในทางการแพทย์นั้น ไม่ได้ช่วยเหลือ แค่ในเรื่องของการรักษา แต่ยังสามารถแบ่งเบา ภาระงาน ที่อยู่ในกลุ่มขาดแคลนได้ เช่น คลังยา การนับสต็อกยา การขนย้ายยา เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่า ขาดแคลนคนทำงานเป็นอย่างมาก สิ่งเหล่านี้ทำให้ การเติบโตทางตลาดโลก เป็นไปได้ในทิศทางที่ดี
คาดการณ์ว่าในช่วงปี 2566 มูลค่าตลาด หุ่นยนต์ช่วยเหลือแพทย์ จะมีมูลค่ารวม 13,190 ล้านดอลลาร์ และเมื่อเข้าสู่ช่วงปี 2575 อาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 52,410 ล้านดอลลาร์ การเติบโตนี้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 15.69% ต่อปี โดยผู้รับผลประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาล (2025) [1]
การรักษาโรคในตอนนี้ จำนวนแพทย์น้อยกว่าคนไข้จริงหรือ
สำหรับทางการแพทย์ ในตอนนี้นั้น มีจำนวนผู้ป่วย มากกว่าแพทย์ ผู้รักษานั้น เป็นเรื่องจริงที่เห็นได้ชัด จากการสำรวจ และการบันทึกข้อมูล ของแพทยสภา ในช่วงปี 2567 พบว่าจำนวนแพทย์ ที่รับการรักษา 1 คน ต้องดูแลคนไข้ อย่างน้อย 922 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนความต่าง ที่เห็นได้ชัด เรื่องปริมาณ
ทั้งนี้การขาดแคลน เกิดจากโลกในตอนนี้ มีไวรัสระบาดมากขึ้น อีกทั้งจำนวนประชากร ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้การเจ็บป่วย มีการเพิ่มจำนวนขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุ ที่วงการแพทย์ เลือกใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยเหลือ เพื่อแบ่งเบาภาระงาน และหน้าที่บางส่วน ที่หุ่นยนต์สามารถทำได้
มุมมองของผู้ป่วย ที่ใช้เทคโนโลยีในการรักษา
1. ถือได้ว่าเป็นเรื่องดี เพราะหุ่นยนต์ในตอนนี้ มีการทำงานที่รวดเร็ว ไม่ความผิดพลาดน้อย
2. AI นับยา เป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้ได้รับยา ที่ปริมาณพอเหมาะ ไม่ต้องเหนื่อยแพทย์
3. หุ่นยนต์ช่วยเหลือ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเหมือนมีแพทย์ สังเกตอาการอยู่ตลอด
4. หุ่นยนต์ในห้องผ่าตัด เพิ่มความมั่นใจ ในการผ่าตัดให้กับ ญาติผู้ป่วยได้ เพราะความผิดพลาดน้อย
5. หุ่นยนต์ใช้เวลาพักน้อย ทำงานได้ต่อเนื่อง ทำให้การทำงาน เป็นไปได้ดีกว่า การใช้มนุษย์
6. ชอบการทำงานของหุ่นยนต์ เพราะไม่มีความซับซ้อน เข้าใจได้ง่าย
7. หุ่นยนต์ช่วยเหลือ ชอบที่ไม่ต้องกังวล ในเรื่องของการทำงาน เพราะไม่มีอารมณ์ เข้ามาเกี่ยวข้อง
หุ่นยนต์ทางการแพทย์ แต่ละประเภท

- da Vinci ®: เป็นชื่อของหุ่นยนต์ผ่าตัด ที่ช่วยอัตราการเสียชีวิต ของผู้ป่วยในขณะ ที่กำลังผ่าตัดได้มากกว่า หลายพันคน นวัตกรรมนี้ มีความแม่นยำสูง และไม่มีอาการสั่น ในการผ่าตัดเลย
- Xenex: ในช่วงปี 2554 โรงพยาบาลในสหรัฐ มีกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโรค จากโรงพยาบาลมากกว่า 722,000 ราย จึงได้มีการใช้ Xenex หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ ที่จะคอยทำความสะอาด ด้วยรังสี UV แบบอัตโนมัติ อยู่ตลอดเวลา
- PARO: หุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ เหมือนกับพยาบาลส่วนตัว เน้นเรื่องการดูแล หลังการรักษา และการฟื้นฟูสุขภาพ อีกทั้งหุ่นยนต์ประเภทนี้ ยังสามารถช่วยเหลือ กลุ่มผู้ป่วยซึมเศร้า และสมองเสื่อมได้อีกด้วย
- มีดไซเบอร์: เป็นกลไกการผ่าตัด แบบการใช้รังสี ไม่ได้เป็นการใช้มีด การผ่าตัดรูปแบบนี้ มักจะใช้ในกรณี ของการผ่าตัดเนื้องอก และการผ่าตัดรูปแบบนี้ เริ่มมีมาตั้งแต่ช่วง ทศวรรษ 1990
ที่มา: 5 Medical Robots (2025) [2]
เอกลักษณ์พิเศษ ที่หุ่นยนต์การแพทย์ทำได้
- การควบคุม: หน่วยประมวลผล ที่จะถูกใส่ข้อมูลต่างๆ แยกเป็นตาม ลักษณะการใช้งาน โดยจะมาใช้รูปแบบ ระบบปฏิบัติการขนาดเล็ก ที่ถูกฝังในตัวหุ่นยนต์ และมีการวาง โปรแกรมต่างๆ เอาไว้ด้านใน
- แบตเตอรี่: การเลือกใช้แบตเตอรี่ มีความจำเป็น ในการกำหนดทิศทาง การทำงานของหุ่นยนต์ หากหุ่นยนต์ใช้แบตเตอรี่ แบบคงที่จะสามารถ ทำงานได้ดีมากกว่า และมีความยืดหยุ่น มากกว่าแบบทั่วไป
- ชุดคำสั่ง: สำหรับหุ่นยนต์ ทางการแพทย์ ในแต่ละประเภท จะมีการเขียน ชุดโปรแกรม ที่แตกต่างกันไป โดยลักษณะพิเศษ ของแต่ละชุดโปรแกรม จะทำให้หุ่นยนต์ สามารถทำตามคำสั่งได้
- ระบบเซนเซอร์: เป็นระบบสำคัญ ที่ทำให้หุ่นยนต์ สามารถทำงานได้ เป็นเหมือนดวงตา แต่มีข้อดีคือ เซนเซอร์เหล่านี้ สามารถตรวจจับ และประมวลผลข้อมูลได้ โดยใช้เวลาไม่นาน
- เอฟเฟกต์ตอบสนอง: เป็นการสร้างสภาพสมดุล ให้หุ่นยนต์มีอารมณ์ แต่มีการเข้าร่วม การตอบสนองต่อมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ ทำให้เรื่องของ การสื่อสาร เป็นไปได้ดีมากยิ่งขึ้น
ที่มา: Medical Robots (2025) [3]
ข้อจำกัดของหุ่นยนต์ ที่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
ระดับการทำงาน ของระบบเอไอนั้น เป็นการทำงานตาม ชุดข้อมูลที่ถูกป้อนให้ ในกรณีที่ผู้ป่วย ที่อาการป่วยที่แตกต่าง จากชุดความรู้ที่มีอยู่ อาจจะทำให้ระบบเอไอ ไม่สามารถวิเคราะห์ กลุ่มข้อมูลเหล่านั้นได้ สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ การประมวลการรักษา เกิดความผิดพลาดได้ อ่านเนื้อหาต่อ perceptra
สิ่งที่ได้จาก หุ่นยนต์ ช่วยเหลือ ทางการแพทย์
ส่วนสรุป หุ่นยนต์ช่วยเหลือ ทางการแพทย์ เป็นองค์ความรู้ใหม่ ว่าตอนนี้นั้น มีการพัฒนาเทคโนโลยี ในทางการแพทย์ ออกเป็นหลายประเภท โดยแต่ละประเภท จะควบคุมการดูแล แตกต่างกันไป สิ่งเหล่านี้สามารถช่วย ลดภาระงานให้กับ แพทย์ทั่วโลกได้ เพราะตอนนี้ ผู้ป่วยมีมากกว่า จำนวนของแพทย์
หุ่นยนต์ช่วยเหลือ รู้สึกเหมือนมีแพทย์จริงหรือ
ถือได้ว่าเป็นเรื่องจริง เพราะหุ่นยนต์ ที่คอยช่วยเหลือ หลังจากการเข้ารับ การรักษา และอยู่ในระยะพักฟื้น หุ่นยนต์เหล่านี้ สามารถตรวจชีพจร และวิเคราะห์ภาวะ แทรกซ้อนได้ เมื่อมีภาวะแทรกซ้อน หุ่นยนต์เหล่านี้ จะส่งสัญญาณเตือน จึงเหมือนมีแพทย์ส่วนตัว คอยสังเกตอาการ อยู่ตลอดเวลา
ทำไมต้องมี หุ่นยนต์มีดไซเบอร์
สำหรับหุ่นยนต์ ประเภทนี้นั้น เน้นการรักษา แบบการฉายรังสี และมักจะใช้ใน การผ่าตัดเนื้องอก หรือก้อนมะเร็ง ที่ต้องมีความแม่นยำสูง เพื่อรักษาชีวิตของคนไข้ การทำงานด้วยรังสี ลดการเกิดแผล และลดการเกิด ภาวะแทรกซ้อนได้ ถือเป็นการรักษา ที่มีประสิทธิภาพ มากกว่าการทำงาน ของแพทย์ทั่วไป
- Tags: วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง


