Menu
อัลปาก้า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นสัตว์ที่อยู่ตระกูลเดียวกับอูฐ สัตว์ชนิดนี้สามารถพบเจอได้ตามเทือกเขาแอนดีส ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับ ลามะ แต่จะแตกต่างกันตรงที่ ลามะ นั้นมนุษย์เลี้ยงไว้เพื่อใช้ขนของ แต่สำหรับอัลปาก้ามนุษย์เลี้ยงไว้เพื่อใช้ประโยชน์จากขนของมัน
โดยส่วนใหญ่ก็จะนำเอาไปทำเครื่องนุ่งห่ม และ เสื้อผ้าต่างๆ เนื่องจากขนของสัตว์ชนิดนี้ค่อนข้างมีความหนา และ นุ่มฟู เป็นอย่างมาก ทำให้ในปัจจุบันนี้อัลปาก้าถูกนิยมเลี้ยงมากยิ่งขึ้น มนุษย์จะสามารถตัดขนได้ของมันได้แค่ในช่วงฤดูร้อนเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมิถุนายนของทุกปีเท่านั้น การเลี้ยงอัลปาก้าถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว [1]
อัลปาก้า เป็นสัตว์ที่ดูเหมือนว่าจะมีลำตัวที่ค่อนข้างสูง แต่จริงๆ แล้วเป็นสัตว์ที่มีขนาดตัวเล็ก ซึ่งความสูงของมันจะอยู่ที่ 125-175 เซนติเมตร เท่านั้น และมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 60-80 กิโลกรัม เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง มีเท้าที่อ่อนนุ่ม ทำให้การเดินของมันจะไม่ทำร้ายทุ่งหญ้าที่อาศัยอยู่ อัลปาก้าเป็นสัตว์ที่มีเสียงร้องที่หลากหลาย
ซึ่งจะใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น จะร้องเสียงสูงเมื่อตกอยู่ในอันตราย หรือ ทำเสียงออกทางโพรงจมูกเพื่อแสดงความเป็นมิตร และที่สำคัญยังสามารถฮัมเพลงสั้นๆ เพื่อแสดงให้อัลปาก้าตัวอื่นรับรู้ถึงอาการที่ตนเองมีความสุขได้อีกด้วย
ลักษณะนิสัยของสัตว์ชนิดนี้ มักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มฝูง และมีความอดทนเป็นอย่างมาก สามารถเลี้ยงไว้ในบ้านหรือบริเวณหน้าบ้านก็ได้ แต่ถึงแม้ว่าสัตว์ชนิดนี้จะดูเป็นมิตร และอารมณ์ดีมากแค่ไหน แต่หากมันรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย หรือ ถูกคุกคาม มันก็จะทำการป้องกันตัวเอง โดยการพ่นน้ำลายออกมาทันที และมันสามารถพ่นน้ำลายได้ไกลถึง 3 เมตรเลยทีเดียว
อัลปาก้ากับลามะเป็นสัตว์ที่อยู่ใน family เดียวกัน ก็เลยทำให้สัตว์สองชนิดนี้มีรูปร่างหน้าตา ที่คล้ายกันเป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงนำสัตว์ 2 ชนิดมาเปรียบเทียบกัน เพื่อให้ทุกท่านเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูไปพร้อมๆ กันได้เลย
อัลปาก้า เป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก อีกทั้งยังมีลักษณะนิสัยที่ดี ไม่ทำร้ายใคร เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย และสามารถเลี้ยงได้บริเวณบ้านของตนเอง บอกเลยว่าใครที่ลงทุนเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้ไป ท่านจะได้รับผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่าอย่างแน่นอน
