เที่ยว นิวคาสเซิล (Newcastle) เมืองพลังหนุ่มสาวริมแม่น้ำไทน์ คนเป็นมิตรที่สุดในอังกฤษ

เที่ยว นิวคาสเซิล (Newcastle upon Tyne) ถ้าคุณกำลังมองหาเมืองในอังกฤษที่มีทั้งกลิ่นอายเก่าแก่และชีวิตชีวาของคนรุ่นใหม่ เมืองนี้คือคำตอบที่ใช่ เมืองตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษ ติดกับแม่น้ำ Tyne (ไทน์) และเป็นหนึ่งในเมืองที่อบอุ่นที่สุดในแง่ หัวใจของผู้คน แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่อากาศเย็นเกือบทั้งปี (13 พฤศจิกายน 2025) (1)

การ เที่ยวนิวคาสเซิลด้วยตัวเอง ง่ายมาก เพราะเมืองไม่ใหญ่ เดินได้เกือบทุกจุดสำคัญในวันเดียว และเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และพิพิธภัณฑ์ที่เข้าฟรีหลายแห่ง ไฮไลต์สำคัญคือ สะพาน Tyne Bridge ที่เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำ เป็นทั้งแลนด์มาร์กและสัญลักษณ์ของภูมิภาคนี้

นิวคาสเซิลเป็นเมืองที่ผสมความเก่ากับใหม่ได้อย่างลงตัว ตึกอิฐเก่ายุควิกตอเรียอยู่ข้างอาคารกระจกสมัยใหม่ ถนนเก่าที่เคยเต็มไปด้วยคนงานอุตสาหกรรม วันนี้กลายเป็นย่านคาเฟ่และแกลเลอรีศิลปะสุดคูล เมืองนี้ไม่ได้พยายามจะทันสมัย แต่มัน เป็นตัวของตัวเอง อย่างน่ารักและจริงใจ

นิวคาสเซิลเป็นเมืองอุตสาหกรรมเก่าที่เปลี่ยนไปเป็นศูนย์วัฒนธรรมสุดคึกคัก
มนต์เสน่ห์ของแม่น้ำไทน์และสะพานไทน์
คาเฟ่, ร้านอาหาร และที่เที่ยวยามค่ำคืนพลังชีวิตที่ทำให้เมืองนี้ไม่เคยเงียบ

นิวคาสเซิล เมืองอุตสาหกรรมเก่า ที่กลายเป็นศูนย์วัฒนธรรมสุดคึกคัก

นิวคาสเซิลเคยเป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมถ่านหินและต่อเรือของอังกฤษในศตวรรษที่ 19 ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาเป็นเมืองวัฒนธรรมและการศึกษาในยุคใหม่ ทุกวันนี้เมืองนี้มีทั้งมหาวิทยาลัยใหญ่สองแห่ง Newcastle University และ Northumbria University ทำให้บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยนักศึกษา ร้านกาแฟ และศิลปะสมัยใหม่

ย่านริมแม่น้ำ Quayside (คีย์ไซด์) ถือเป็นหัวใจสำคัญของเมือง คุณจะเห็นสะพานหลายแห่งทอดข้ามแม่น้ำ โดยเฉพาะสะพานไทน์ ที่สร้างตั้งแต่ปี 1928 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ทุกค่ำคืนสะพานนี้จะส่องแสงไฟสีทองสะท้อนผิวน้ำอย่างสวยงามจนกลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักเดินทางทั่วโลก

สิ่งที่ทำให้นิวคาสเซิลต่างจากเมืองอื่นในอังกฤษคือความอบอุ่นของผู้คน ทุกคนพร้อมจะทักทายหรือแนะนำที่เที่ยวให้เสมอ รีวิวใน Google และ TripAdvisor เต็มไปด้วยคำว่า friendly, welcoming & vibrant ซึ่งสะท้อนความจริงได้ดีที่สุด (14 พฤศจิกายน 2025) [2]

เสน่ห์ของ แม่น้ำไทน์ และ สะพานไทน์ ในการลุย เที่ยว นิวคาสเซิล

แม่น้ำไทน์ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งน้ำสำคัญของเมือง แต่เป็นเส้นชีวิตของนิวคาสเซิลมาตลอดหลายศตวรรษ ริมแม่น้ำเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์บรรยากาศดีที่เปิดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ส่วนสะพานไทน์นั้นสร้างขึ้นโดยบริษัทเดียวกับที่สร้าง Sydney Harbour Bridge ในออสเตรเลีย ทำให้มีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกันอย่างน่าสนใจ

ทุกวันเสาร์อาทิตย์ บริเวณคีย์ไซด์ จะมีตลาดของแฮนด์เมดและอาหารท้องถิ่นให้เดินเล่น นอกจากนี้ยังมีสะพานสมัยใหม่อีกแห่งชื่อว่า Gateshead Millennium Bridge ที่หมุนได้จริงเพื่อเปิดทางให้เรือผ่าน เป็นนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรมที่คนท้องถิ่นภาคภูมิใจมาก

ย่านเมืองเก่า Grey Street และ Newcastle Castle

จากริมแม่น้ำเดินขึ้นมาทางในเมืองจะเจอกับ Grey Street ถนนหลักที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งของอังกฤษ ซึ่งเรียงรายไปด้วยอาคารยุคจอร์เจียนที่มีหินอ่อนสีอ่อน บนสุดของถนนคือ Grey’s Monument เสาอนุสาวรีย์กลางเมืองที่เป็นจุดนัดพบของชาวนิวคาสเซิล

ไม่ไกลจากนั้นคือ ปราสาทนิวคาสเซิล ที่เป็นต้นกำเนิดชื่อของเมือง (“New Castle”) ซึ่งปัจจุบันเปิดให้เข้าชมภายใน มีทั้งพิพิธภัณฑ์และจุดชมวิวที่มองเห็นแม่น้ำไทน์ได้เต็มตา (2025) [3]

เดินเที่ยวรอบเมือง 1 วัน จาก Quayside ถึงมหาวิทยาลัย Newcastle University

การเดิน เที่ยว นิวคาสเซิล เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความคึกคักแต่ไม่เร่งรีบ เริ่มต้นวันที่คีย์ไซด์ เดินชมวิวสะพานไทน์ และตลาดท้องถิ่น จากนั้นเดินขึ้นมาทาง Grey Street เพื่อชมอาคารคลาสสิกและคาเฟ่ที่ตั้งอยู่เรียงรายสองข้างทาง

ช่วงสายสามารถแวะชม Baltic Centre for Contemporary Art แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัยฝั่ง Gateshead ที่เข้าชมฟรี และต่อด้วยการข้ามสะพาน Millennium Bridge เพื่อกลับมาฝั่งเมือง

ช่วงบ่ายแนะนำให้เดินเล่นในเขตมหาวิทยาลัย Newcastle University ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้และอาคารอิฐแดงเก่าอันสวยงาม นักเดินทางใน TripAdvisor มักพูดว่า “นี่คือเมืองมหาวิทยาลัยที่อบอุ่นที่สุดในอังกฤษ” เพราะนักเรียนและคนในพื้นที่ใช้ชีวิตปนกันอย่างกลมกลืน

เส้นทางเดินเท้าชมเมือง บวกกับ พิพิธภัณฑ์น่าสนใจ

Quayside Walkway – ทางเดินริมแม่น้ำ Tyne ที่ถ่ายรูปสวยทุกช่วงเวลา
Baltic Centre for Contemporary Art – พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย เข้าฟรี
The Biscuit Factory – แกลเลอรีและคาเฟ่ในโรงงานเก่าที่ปรับปรุงใหม่
Discovery Museum – พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ที่เด็กชอบมาก

รีวิวจากนักเดินทางจริง เมืองอบอุ่นที่เดินง่ายที่สุดในอังกฤษ

แม้จะเป็นเมืองใหญ่ แต่นิวคาสเซิลกลับเป็นเมืองที่ เดินง่ายและปลอดภัยที่สุดในอังกฤษ ตามรีวิวใน VisitBritain และ TripAdvisor นักเดินทางส่วนใหญ่ยกให้ที่นี่เป็นเมืองที่ผู้คนยิ้มแย้มมากที่สุด และสามารถเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืนโดยไม่ต้องกลัวหลง

หลายคนบอกว่าจุดเด่นของเมืองนี้ไม่ใช่แค่สะพานหรือพิพิธภัณฑ์ แต่คือ บรรยากาศของผู้คน ที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน บางคนเขียนไว้ว่า “Newcastle didn’t just welcome me – it hugged me. (นิวคาสเซิลไม่ได้แค่ต้อนรับฉันเท่านั้น แต่ยังกอดฉันด้วย)”

คาเฟ่ อาหาร และไนต์ไลฟ์ พลังชีวิตที่ทำให้เมืองนี้ไม่เคยเงียบ

นิวคาสเซิลคือเมืองที่ไม่เคยเงียบ ไม่ว่าจะเช้า กลางวัน หรือกลางคืน คาเฟ่เปิดตั้งแต่เช้าให้กลิ่นกาแฟหอมตลอดคีย์ไซด์ ในขณะที่ร้านอาหารและบาร์ริมแม่น้ำคึกคักไปด้วยเสียงดนตรีสดยามค่ำ

คาเฟ่ยอดนิยมของเมือง ได้แก่ Laneway & Co คาเฟ่เล็กๆ ที่มีเบเกอรี่โฮมเมดชื่อดัง และ Olive & Bean ร้านบรรยากาศอุ่นที่เสิร์ฟอาหารเช้าแบบอังกฤษแท้ ส่วนร้านอาหารท้องถิ่นแนะนำ Blackfriars Restaurant ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นร้านอาหารที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ

ส่วนไนต์ไลฟ์ เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องบาร์และผับที่สนุกที่สุดในอังกฤษตอนเหนือ ย่าน Bigg Market และ Collingwood Street คือแหล่งรวมบาร์ชั้นดี และทุกคืนศุกร์เสาร์จะเต็มไปด้วยคนท้องถิ่นที่ออกมาใช้ชีวิตแบบสนุกแต่ไม่วุ่นวาย

คาเฟ่ Quayside และร้านอาหารท้องถิ่นยอดนิยม

Laneway & Co – คาเฟ่กลิ่นอบอุ่น กาแฟรสละมุน
Olive & Bean – ร้านอาหารเช้าและเบเกอรี่สไตล์อังกฤษ
Blackfriars Restaurant – ร้านอาหารเก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ
Pitcher & Piano – บาร์ริมแม่น้ำ วิวสะพาน Tyne Bridge

บาร์และไนต์คลับชื่อดัง ที่ต้องลองสักครั้ง

The Botanist – บาร์วิวเมืองสุดหรูพร้อมเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์
Revolucion de Cuba – บาร์แนวละตินที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรีและพลังคนหนุ่มสาว
Alvinos – บาร์เครื่องดื่มสไตล์ local ที่ได้รับรีวิวดีสุดใน Quayside

สรุป เที่ยว นิวคาสเซิล เมืองพลังบวกที่ผสมอดีตกับอนาคตได้อย่างลงตัว

นิวคาสเซิลคือเมืองที่ทำให้คุณเห็น อังกฤษอีกแบบ ที่ไม่รีบ ไม่หรู แต่จริงใจ เมืองนี้มีทั้งสะพานที่สวย คาเฟ่ที่น่ารัก และผู้คนที่ยิ้มแย้มมากที่สุดในประเทศ มันไม่พยายามจะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่กลับกลายเป็นเมืองที่ทำให้คนอยากกลับมา

ที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบเมืองมีชีวิตแต่ไม่วุ่นวาย คนที่อยากเดินเล่น ฟังเพลง ดูไฟสะพาน และจิบเบียร์เย็นๆ ริมแม่น้ำไทน์ เมืองนี้ไม่ใช่แค่จุดหมาย แต่เป็นความรู้สึกที่จะติดอยู่ในใจคุณไปนาน