
เท็สเซ็นจุตสึ ประวัติ มีความเป็นมาที่ลับๆ ซ่อนอยู่
- No-R
- 24 views

เท็สเซ็นจุตสึ ประวัติ สามารถกลายเป็นอาวุธ ที่ทรงพลังได้อย่างไร ทำไมซามูไรถึงพัฒนาศิลปะ การต่อสู้ด้วยพัดเหล็กขึ้นมา และเทคนิคเหล่านั้น ซ่อนความลับอะไรเอาไว้
- ที่มาของศิลปะชนิดนี้
- ประเภทพัดเหล็กมีอะไรบ้าง?
- มีความลับอะไรซ่อนอยู่?
ที่มาเท็สเซ็นจุตสึ
เท็สเซ็นจุตสึเป็นศิลปะการต่อสู้ ของซามูไรญี่ปุ่น ที่ใช้พัดเหล็ก (เทเซ็น) เป็นอาวุธหลัก คาดว่าพัฒนาขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 16–17 เพื่อใช้ในสถานการณ์ ที่ไม่สามารถใช้ดาบได้ เช่น ในปราสาท หรือระหว่างการทูต ศิลปะนี้ผสมผสานระหว่าง การป้องกันตัว และการโจมตีอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าจะไม่มีบันทึกวันที่แน่ชัด แต่การใช้เท็สเซ็นจุตสึ เริ่มเป็นที่รู้จัก ในช่วงสมัยเอโดะ (1603–1868) ในยุคนี้ ซามูไรเริ่มฝึกฝนเทคนิค การใช้พัดเหล็กในการต่อสู้ หลังจากยุคเอโดะ ศิลปะนี้ค่อยๆ หายไป แต่ยังคงมีการสืบทอด และฝึกฝนในบางกลุ่ม จนถึงปัจจุบัน (5 สิงหาคม 2025) [1]
ประเภทของพัดเหล็ก
• เทเซ็นสำหรับป้องกันตัว (Defensive Tessen) พัดประเภทนี้ เน้นการใช้เป็นโล่ป้องกัน เช่น กันดาบหรืออาวุธของศัตรู ซี่เหล็กแข็งแต่พับเก็บได้ คล้ายพัดธรรมดา ขนาดโดยทั่วไปยาวประมาณ 30–45 ซม. น้ำหนักเฉลี่ย 200–400 กรัม ใช้เทคนิคบล็อก และเบี่ยงอาวุธศัตรู
• เทเซ็นสำหรับโจมตี (Offensive Tessen) ออกแบบให้แข็งแรง และหนักกว่าพัดปกติ สามารถฟาด ต่อย หรือแทงในระยะประชิด มักใช้โจมตีจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ เช่น ข้อมือ ขา หรือศีรษะ เทคนิคฟาดต่อเนื่อง มักฝึกเป็นเซ็ต 3–5 ครั้งต่อชุด และฝึกแบบสปาร์ริงเบาๆ ประมาณ 1–2 ครั้งต่อสัปดาห์
• เทเซ็นแบบพกพา (Concealed/Travel Tessen) ลักษณะเหมือนพัดธรรมดา เพื่อพกพาโดยไม่ให้คนอื่นสังเกต บางรุ่นมีซี่เหล็กซ่อนภายใน แต่สามารถเปิดเป็นพัดได้ เหมาะสำหรับซามูไร ที่อยู่ในสถานที่ห้ามพกอาวุธ
• เทเซ็นแบบผสม (Hybrid Tessen) รวมคุณสมบัติทั้งป้องกันและโจมตี ใช้ได้ทั้งฟาด – บล็อก บางรุ่นมีปลายเหล็กแหลม สำหรับแทง หลายครั้งจนเป็นวงจร (เซ็ตละ 5–8 ท่า, ทำ 6–10 เซ็ต)
เทคนิคเด่นของเท็สเซ็นจุตสึ
- ใช้พัดเหล็กบล็อก หรือเบี่ยงแรงโจมตีของคู่ต่อสู้ เช่น ดาบหรือลูกศร เทคนิคนี้เน้นความแม่นยำ และการคาดเดาการโจมตี (23 กันยายน 2021) [2]
- ใช้ปลายหรือขอบเหล็ก ของพัดฟาดศัตรูในจุดอ่อน เช่น ข้อมือ ขา หรือศีรษะ สามารถโจมตีเร็ว และต่อเนื่อง ทำให้คู่ต่อสู้เสียสมดุล
- บางรุ่นของเทเซ็นมีปลายแหลม ใช้แทงศัตรูในระยะใกล้ เทคนิคนี้มักใช้ในจังหวะ ที่คู่ต่อสู้เข้ามาใกล้
- ล็อกและโยกคู่ต่อสู้ ใช้พัดค้ำยันหรือเกี่ยว เพื่อควบคุมคู่ต่อสู้ เป็นการรวมเทคนิคป้องกัน และโจมตีเข้าด้วยกัน
การเรียนเท็สเซ็นจุตสึ ควบคู่กับศิลปะอื่น

การเรียนเท็สเซ็นจุตสึ ควบคู่กับศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่นอื่นๆ ถือว่าเป็นแนวทาง ที่ช่วยเสริมทักษะ และความเข้าใจในศิลปะการต่อสู้ แบบครบวงจร เนื่องจากเท็สเซ็นจุตสึ เน้นการป้องกันตัว ในระยะประชิด การโจมตีแบบฉับพลัน และการใช้แรงของคู่ต่อสู้ กลับมาเป็นประโยชน์ การฝึกควบคู่กับศิลปะอื่น สามารถเพิ่มความสามารถในหลายด้าน
ตัวอย่างเช่น การเรียน เคนจุสึ หรือคูโบโดะ จะช่วยให้ผู้ฝึกมีทักษะ การจับจังหวะ และการโจมตีด้วยอาวุธยาว ซึ่งสามารถปรับใช้ ในการกำหนดระยะ และทิศทางในการใช้เทเซ็นได้ ส่วนการเรียน ยูโดหรือจูเกนโด จะช่วยเสริมเทคนิคล็อก และโยกคู่ต่อสู้ ทำให้การใช้เทเซ็น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อต้องเจอการเข้าประชิด หรือการต่อสู้ที่ซับซ้อน (21 พฤศจิกายน 2024) [3]
ขณะที่ ยูโด ซึ่งก่อตั้งในปี 1882 โดยคาโน จิโกโร ช่วยเสริมเทคนิคการล็อกและการทุ่มคู่ต่อสู้ให้เข้ากับการต่อสู้ประชิดด้วยพัดเหล็ก และหากควบคู่กับ จูเคนโด กติกา ที่ถือกำเนิดในสมัยเมจิหลังปี 1889 การใช้พัดเหล็กก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อต้องเจอกับการเข้าประชิดหรือการต่อสู้ที่ซับซ้อน
ความลับบางประการคืออะไร ?
มีความลับบางประการ ที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเทคนิคขั้นสูง ที่สืบทอดแบบลับๆ มักอยู่ในระดับผู้ฝึกชั้นสูง หรือมาสเตอร์ของศิลปะ ความลับเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับจังหวะ เทคนิคการโจมตี และป้องกันที่เฉียบคม การใช้แรงของคู่ต่อสู้ กลับมาเป็นประโยชน์ และการประเมินระยะอย่างแม่นยำ
อย่างเช่น มีเทคนิคที่เรียกว่า “แทงลึกโดยไม่เปิดตัว” ซึ่งผู้ฝึกสามารถ ใช้ปลายพัดเหล็กแทงศัตรู โดยที่ดูเหมือนไม่มีการโจมตีเกิดขึ้น การใช้เทคนิคนี้ ต้องอาศัยสมาธิสูง การอ่านจังหวะ และท่าทางของคู่ต่อสู้ รวมถึงความเชี่ยวชาญ ในการเคลื่อนไหว ของร่างกายแต่ละส่วน
ได้ข้อคิดอะไร จากเท็สเซ็นจุตสึบ้าง ?
- ใช้ความคิดมากกว่ากำลัง : การต่อสู้ด้วยพัดเหล็กเน้นสมาธิ การวางแผน และการอ่านคู่ต่อสู้ ทำให้เข้าใจว่า การคิดวิเคราะห์สำคัญกว่า การใช้แรงเพียงอย่างเดียว
- ปรับตัวและใช้สิ่งรอบตัวให้เกิดประโยชน์ : พัดธรรมดากลายเป็นอาวุธ ที่มีประสิทธิภาพ สอนให้รู้จักใช้ทรัพยากร ที่มีให้เกิดคุณค่า และประโยชน์สูงสุด
- ความสมดุล : การเคลื่อนไหวต้องรวม ทั้งความเร็ว ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ทำให้เข้าใจความสมดุลในชีวิต การแก้ปัญหา
- ความอดทนและสมาธิสำคัญที่สุด : การฝึกเท็สเซ็นจุตสึต้องใช้เวลา ความตั้งใจ สอนให้รู้จักความพยายาม ใส่ใจในรายละเอียด
- ป้องกันตัวเองผู้อื่นอย่างชาญฉลาด : เทคนิคเน้นการป้องกัน และใช้แรงคู่ต่อสู้ กลับมาเป็นประโยชน์ แสดงถึงการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด แทนการเผชิญหน้าอย่างรุนแรง
เท็สเซ็นจุตสึ ประวัติ กับท้ายที่สุดนี้
สรุป เท็สเซ็นจุตสึ ประวัติ ไม่ใช่แค่การใช้พัดธรรมดา แต่เป็น ศิลปะการต่อสู้ที่ครบเครื่อง ทั้งการป้องกัน การโจมตี และปรัชญาการต่อสู้ แบบซามูไร
ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ จึงชำนาญ ?
อาจต้องใช้เวลา และความตั้งใจอย่างต่อเนื่อง ผู้ฝึกส่วนใหญ่ ต้องเริ่มจากพื้นฐาน การจับพัดเหล็ก การเคลื่อนไหว และการป้องกันตัวก่อน
สามารถฝึกเท็สเซ็นจุตสึคนเดียวได้ไหม ?
สามารถทำได้เพื่อฝึกท่าพื้นฐาน การจับพัด และการเคลื่อนไหว แต่การฝึกกับคู่ต่อสู้จริง จำเป็นเพื่อเรียนรู้จังหวะการโจมตี และป้องกันตัวจริงๆ การฝึกทั้งสองแบบควบคู่กัน จึงช่วยให้ผู้ฝึกพัฒนาทักษะครบถ้วน และเข้าใจปรัชญาของศิลปะนี้อย่างแท้จริง
- Tags: กีฬา
แหล่งอ้างอิง


