Butterhead หรือ บัตเตอร์เฮด เป็นผักสลัดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบอาหารสุขภาพ เนื่องจากมีใบนุ่ม และรสชาติกรอบหวาน บทความนี้จะนำเสนอถึงการเพาะปลูก ประวัติ ประโยชน์ และวิธีการนำมารับประทานของบัตเตอร์เฮด
บัตเตอร์เฮด สามารถเติบโตได้ดี ในดินที่มีการระบายน้ำดี และมีแสงแดดเพียงพอ มักปลูกในภูมิอากาศที่อบอุ่นและเย็น เช่น ในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย เป็นผักที่ต้องการการดูแลรักษา อย่างพิถีพิถัน ในการเตรียมดิน และการรดน้ำ
บัตเตอร์เฮดเป็นหนึ่งในผักสลัด ที่ได้รับความนิยม และมีการเพาะปลูกอย่างแพร่หลายทั่วโลก ข้อมูลระบุว่าบัตเตอร์เฮดมีการเพาะปลูกทั่วโลก บนพื้นที่ประมาณ 1,226,370 เฮกตาร์ โดยมีผลผลิตรวม ประมาณ 27,660,187 เมตริกตัน ประเทศจีน เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด คิดเป็นประมาณ 55% ของผลผลิตทั่วโลก [1]
บัตเตอร์เฮด เป็นผักสลัดชนิด ที่มีใบนุ่ม และรูปทรงหัว โดยไม่มีก้านใบแข็ง มักมีสีเขียวอ่อน ใบซ้อนกันหลายกลีบกุหลาบ และมีลักษณะใบที่กรอบ ฉ่ำน้ำธรรมชาติ ทำให้มีความอร่อย เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีรสชาติขม และกลิ่นเหม็นเขียว ทานง่าย เหมาะสำหรับทานสดๆ
บัตเตอร์เฮด มีต้นกำเนิด มาจากยุโรป และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในช่วงศตวรรษที่ 18 ด้วยลักษณะของใบที่นุ่ม และรสชาติอ่อนโยน บัตเตอร์เฮดได้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของโลก จากการค้า และการอพยพ
บัตเตอร์เฮดอุดมไปด้วยวิตามิน A และ K ซึ่งสำคัญต่อการมองเห็น และการเสริมสร้างกระดูก นอกจากนี้ ยังมีไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยในการย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง แหล่งข้อมูลที่ 1 ระบุว่า บัตเตอร์เฮดปริมาณ 1 หัวหรือ 163 กรัม Total energy 13 kilocalories
ที่มา: พลังงานและสารอาหารจาก Lettuce, butterhead [2]
แหล่งข้อมูลที่ 2 ระบุว่า บัตเตอร์เฮดปริมาณ 100 กรัม Total energy 13 kilocalories
ที่มา: Butterhead Lettuce [3]
บัตเตอร์เฮด มีจำหน่ายที่ตลาดผัก และผลไม้ รวมถึงในซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีแผนกผักสด มักจำหน่ายในรูปแบบหัวสด เพื่อความสด และคงคุณค่าทางโภชนาการ ยกตัวอย่างราคาขายตลาดทั่วไป
บัตเตอร์เฮด เป็นผักสลัด ที่ไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ใบของมันที่นุ่ม และมีรสชาติอ่อนหวาน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ สำหรับการทำสลัด และเมนูอาหารสุขภาพอื่นๆ