Cauliflower ผักที่ใช้ทานแทนข้าว เพื่อลด Calorie

Cauliflower

Cauliflower หรือ กะหล่ำดอก เป็นหนึ่งในผักที่มีลักษณะเด่น ด้วยสีขาวที่โดดเด่น และมีดอกเล็กๆ รวมกันเป็นหัวใหญ่ มีรสชาติอ่อนๆ และสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายแบบ ตั้งแต่การนึ่ง, ต้ม, ย่าง ไปจนถึงอบ นอกจากจะให้รสชาติที่อร่อยแล้ว กะหล่ำดอกยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงอีกด้วย

Cauliflower การเพาะปลูก และการผลิตทั่วโลก

กะหล่ำดอก เจริญเติบโตได้ดี ในสภาพอากาศเย็น มักปลูกในประเทศที่มีอากาศเย็นเช่น แคนาดา, สหรัฐอเมริกา, และประเทศในยุโรป เช่น อังกฤษและเยอรมนี ผักชนิดนี้ต้องควรปลูกในดิน ที่มีความชื้นสูง และแดดไม่จัดเกินไป

การผลิตกะหล่ำดอกทั่วโลกในปี 2018 มีปริมาณรวมอยู่ที่ประมาณ 25.3 ล้านตัน โดยประเทศจีน และอินเดียรวมกันคิดเป็นประมาณ 69% ของพื้นที่ปลูกทั่วโลก และทั้งสองประเทศนี้ มีส่วนแบ่งการผลิตรวมกันประมาณ 75% ของการผลิตกะหล่ำดอกทั่วโลก [1]

Cauliflower ผักในวงศ์ Brassicaceae คืออะไร

กะหล่ำดอก เป็นผักในวงศ์ Brassicaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับ Cabbage บรอกโคลี มีลักษณะเด่นคือมีหัวดอกที่ใหญ่ ประกอบด้วยกลุ่มของดอกย่อยๆ ที่รวมกันอย่างแน่นหนา โดยส่วนใหญ่มีสีขาว แต่ก็มีพันธุ์ที่มีสีเขียว, ม่วง, และส้มด้วย

Cauliflower ที่มา ต้นกำเนิด จากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้

กะหล่ำดอก มีต้นกำเนิด จากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ โดยมีหลักฐานการปลูกครั้งแรกมาตั้งแต่ช่วง 600 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 12 กะหล่ำดอกได้รับการพัฒนา และปลูกขยายพันธุ์ในส่วนต่างๆ ของยุโรป โดยเฉพาะในอิตาลี และฝรั่งเศส ก่อนจะแพร่กระจายไปยังทวีปยุโรปอื่นๆ ในช่วงศตวรรษที่ 16

การเผยแพร่ของกะหล่ำดอกในยุโรปนั้น เป็นผลจากการเดินทาง และการแลกเปลี่ยนของนักสำรวจ และพ่อค้า กะหล่ำดอกได้รับการนำเสนอ และนิยมปลูกในสวน และพื้นที่เพาะปลูก ของชนชั้นสูงในยุโรปเนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม และเป็นผักที่หายากในขณะนั้น

ในสหรัฐอเมริกา กะหล่ำดอกได้รับความนิยม ในช่วงศตวรรษที่ 19 และได้กลายเป็นผักที่นิยมในอาหารอเมริกันในที่สุด การปรุงอาหารที่หลากหลาย และคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้กะหล่ำดอกเป็นที่นิยมอย่างมาก ในวงการอาหารสุขภาพในปัจจุบัน

Cauliflower ประโยชน์ มีวิตามิน C และ K สูง

Cauliflower

กะหล่ำดอก มีวิตามิน C และ K สูง รวมทั้งมีเส้นใยอาหาร Antioxidant และสารประกอบ ที่ช่วยต่อต้านมะเร็ง เป็นผักที่ดีต่อการควบคุมน้ำหนัก และดีต่อสุขภาพหัวใจ แหล่งข้อมูลที่ 1 ระบุว่ากะหล่ำดอกปริมาณ100 กรัมมี 24 kcal

  • ไขมันทั้งหมด 0.3 g
  • ไขมันอิ่มตัว 0.1 g
  • โซเดียม 30 mg
  • โพแทสเซียม 299 mg
  • คาร์โบไฮเดรต 5 g
  • เส้นใยอาหาร 2 g
  • น้ำตาล 1.9 g
  • โปรตีน 1.9 g
  • วิตามินซี 48.2 mg
  • แคลเซียม 22 mg
  • เหล็ก 0.4 mg
  • วิตามินบี 6 0.2 mg
  • แมกนีเซียม 15 mg

    ที่มา: FoodData [2]

 

แหล่งข้อมูลที่ 2 ระบุว่ากะหล่ำดอกปริมาณ100 กรัมมี 25 kcal

  • Carbohydrates 4.97 grams
  • Dietary fiber 2 grams
  • Protein 1.92 grams
  • Fructose 0.97 grams
  • Glucose 0.94 g
  • Fat 0.28 grams
  • Potassium 299 mg
  • Vitamin C 48.2 milligrams
  • Choline 44.3 mg
  • Phosphorus 44 mg
  • Sodium 30 mg
  • Calcium 22 mg
  • Magnesium 15 mg
  • Iron 0.42 mg
  • Vitamin K 15.5 micrograms

ที่มา: กะหล่ำดอก ประโยชน์ [3]

 

จากทั้งสองแหล่งข้อมูลแสดงถึงความคล้ายคลึงที่สูงมาก มีความต่างเล็กน้อยในค่าบางประการ การเปรียบเทียบนี้บ่งชี้ว่าข้อมูลทางโภชนาการสำหรับกะหล่ำดอกมีความเที่ยงตรง และสอดคล้องกัน ระหว่างสองแหล่งข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบ ระบุถึงความแม่นยำของข้อมูลที่นำเสนอ

Cauliflower กะหล่ำดอกหาซื้อได้ที่ไหน

กะหล่ำดอกมีจำหน่ายทั่วไปในตลาดสด, ซูเปอร์มาร์เก็ต, และร้านค้าที่ขายผักสด มักจะมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่หัวเล็ก ไปจนถึงหัวใหญ่ ช่องช่องทางออนไลน์ ก็มีจำหน่ายทั่วไป ยกตัวอย่างเว็บไซต์

  • Simummuangmarket กะหล่ำดอกเกรด LA (Large, Beautiful) ราคา 28 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม และเกรด MA (Medium, Beautiful) ราคา 20 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม [4]
  • Freshket กะหล่ำดอก คัดตัดแต่ง ขนาด 500-800 g. ต่อหัว ราคา 61 บาท [5]

Cauliflower ข้อแนะนำในการนำมารับประทาน

กะหล่ำดอกนิยมรับประทานได้แบบปรุงสุก หนึ่งในวิธีการทำอาหารที่นิยมคือการนำไปต้ม ย่าง หรืออบในเตาอบกับเครื่องเทศ เช่น อบกับกระเทียมและพริกไทย หรือทำเป็นครีมซุปกะหล่ำดอก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทานแทนข้าวสวย ทดแทนการทานข้าวเพื่อลดแคลอรี

สรุป Cauliflower ผัก Calorie ต่ำ ช่วยควบคุมน้ำหนัก

Cauliflower

กะหล่ำดอก เป็นผักที่มีประโยชน์หลายอย่าง ไม่เพียงแต่ต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการควบคุมน้ำหนักและช่วยในการต่อสู้กับโรคร้ายแรง เป็นผักที่สามารถนำมาปรุงในหลายรูปแบบ และควรมีอยู่ในอาหารประจำวันของทุกคน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

393