Jackfruit หรือขนุน เป็นผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในหมู่ผลไม้ที่มนุษย์เราสามารถบริโภคได้ มีต้นกำเนิดจากอินเดียใต้ และเป็นที่นิยมในหลายประเทศ ในเขตร้อนทั่วโลก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ขนุนได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในหลายวัฒนธรรม
Jackfruit มีต้นกำเนิด ในป่าเขตร้อนของอินเดียใต้ บังกลาเทศ และศรีลังกา ก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และอเมริกาใต้ ในหลายประเทศ ขนุนไม่เพียงแต่เป็นอาหารหลัก ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประเพณีอีกด้วย
Jackfruit มีรสชาติที่หวานและเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม อุดมไปด้วยวิตามิน และเส้นใยอาหาร ช่วยในการย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ [1] นอกจากนี้ยังมีแคลอรีต่ำ แต่ให้พลังงานสูง ขนุนให้คุณค่าทางอาหารที่หลากหลายต่อ 100 กรัม ดังนี้
ขนุนอ่อน หรือแบบดิบมักถูกใช้ในการทำอาหาร เช่น แกง หรือปรุงเป็นส่วนผสมในอาหารต่างๆ คุณค่าทางโภชนาการ ต่อ 100 Gram พลังงาน 95 Kilocalories
ที่มา : ขนุน สรรพคุณและประโยชน์ [2]
ขนุนสามารถนำมาทำเป็นอาหารหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การกินสดๆ ไปจนถึงการนำมาทำเป็นขนมหวาน อาหารจานหลัก เช่น ลอดช่องขนุน ขนุนยัดไส้ข้าวเหนียวน้ำกะทิ หรือแม้แต่เป็นส่วนผสม ในสลัดผลไม้ ขนุนอ่อนยังสามารถใช้แทนเนื้อสัตว์ ในอาหารเจ หรือมังสวิรัติได้
หากต้องการทานขนุนแบบสุก การเลือกซื้อ ควรเลือกผลที่มีกลิ่นหอม และเปลือกไม่มีรอยช้ำ เพราะสำคัญมาก สำหรับการเก็บรักษา ขนุนสุกควรบริโภคให้หมดภายในไม่กี่วัน เนื่องจากมีโอกาสเน่าเสียได้ง่าย สามารถแช่ตู้เย็นได้
ส่วนขนุนอ่อน ควรเลือกผลที่ไม่แก่เกินไปและไม่มีรอยช้ำหรือเน่าเสีย โดยปกติขนุนจะมาราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 12-18 บาท ตามขนาดและสายพันธุ์ [3]
Jackfruit เป็นผลไม้แหล่งอาหารที่อุดมด้วยประโยชน์ทางโภชนาการ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย ทั้งในรูปแบบสด และปรุงสุก สามารถทานสุกได้ด้วยรสชาติที่หวาน แบบดิบที่มีเนื้อสัมผัสแน่นหนึบ