Lentil หรือ เลนทิล เป็นหนึ่งในถั่วที่มีประวัติการใช้งาน ที่ยาวนานที่สุด และยังคงเป็นหนึ่งในแหล่งโปรตีนพืชที่สำคัญ สำหรับมนุษย์ในปัจจุบัน เลนทิลมีบทบาทสำคัญ ในหลายวัฒนธรรมอาหาร และมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหลือเชื่อ
Lentil เป็นพืชตระกูลถั่ว วงศ์เดียวกันกับ Peanut ที่มีลักษณะเป็นเมล็ด รูปแบบกลมแบน และมีขอบที่ค่อนข้างเรียบ มีสีที่หลากหลายตั้งแต่เหลือง แดง น้ำตาล ถึงดำ ถูกใช้ทั้งในรูปแบบสุก และแห้ง เป็นที่นิยมในการปรุงอาหาร เนื่องจากเวลาในการเตรียม และปรุงที่รวดเร็ว
Lentil ถือกำเนิดในตะวันออกกลาง และได้รับการค้นพบว่า มีการปลูกมากว่า 8,000 ปี ปัจจุบัน เลนทิล ปลูกในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึง Canada, India และประเทศในภูมิภาค mediterranean ประเทศ Canada เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเลนทิล รายใหญ่ที่สุด โดยมีปริมาณผลผลิตหลายล้านตันต่อปี
เลนทิล สามารถเติบโตได้ดีในดิน ที่มีการระบายน้ำดี และต้องการอากาศเย็นในช่วงเจริญเติบโต มีความต้านทานต่อสภาพแห้งแล้ง แต่ต้องการน้ำฝนเพียงพอ ในช่วงการเจริญเติบโต ประเทศหลักๆ ที่ส่งออกถั่วเลนทิล ได้แก่ Canada, India, United States, Turkey, Australia, Nepal, และ Bangladesh
การผลิตถั่วเลนทิล ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 6.45 ล้านตัน ในปี 2020 การผลิตถั่วเลนทิล อยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านตัน ซึ่งต่ำกว่าสถิติการเก็บเกี่ยวในปี 2018 ที่ 1.62 ล้านตัน [1]
เลนทิล มีโปรตีนสูงและเส้นใยอาหารสูง เหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนัก และลดคอเลสเตอรอล มีไขมันต่ำ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับโปรตีนจากพืช เลนทิล 100 กรัม ให้ Energy 355 kilocalories
ที่มา: ถั่วเลนทิล [2]
เลนทิล มีจำหน่ายอย่างแพร่หลายใน Supermarket และร้านขายธัญพืชและถั่วทั่วไป ร้านออนไลน์ มักพบในรูปแบบแห้งและบางครั้งเป็นกระป๋อง หรือต้มสุกแล้ว ยกตัวอย่างร้านออนไลน์ ขายเมล็ดถั่วเลนทิล สีน้ำตาล ปริมาณ 250 กรัม ราคา 149 บาท [3]
ต้ม เลนทิล กับน้ำ และเครื่องเทศ เพื่อทำเป็นซุป หรือใช้เลนทิล ในการทำอาหารจานหลัก เช่นทำเป็นแกง สามารถทำเป็นสลัด ผสมเลนทิลกับผักสด น้ำสลัด และสมุนไพร เป็นจานสลัด ที่อุดมไปด้วยโปรตีน หรือทำข้าวหุง รวมกับธัญพืช อาจใช้ข้าว Barley กับถั่วเลนทิล
Lentil เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่สามารถรวมอยู่ในอาหารหลากหลาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความอร่อย ด้วยประโยชน์ และการปลูกที่ง่าย ถั่วเลนทิลเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับทุกครัวเรือน ที่ต้องการเพิ่มโปรตีนพืชในอาหาร