Pecan ผลไม้ของต้นพีแคน ที่สืบทอดมายาวนาน ในภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นหนึ่งในผลไม้ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและวัฒนธรรมอย่างมาก ด้วยรสชาติที่หวาน และเนื้อที่กรุบกรอบ เป็นที่นิยมในการประกอบอาหาร และทำขนมหลากหลายรูปแบบ
Pecan เป็นผลไม้ที่มีอายุยืนยาวหลายร้อยปี ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐ Texas ซึ่งถือว่าเป็นรัฐบ้านเกิดของพีแคน ต้นพีแคนเป็นต้นไม้ที่สามารถเติบโตได้สูง และใหญ่ ผลิตผลไม้ที่มีเปลือกแข็ง ภายในซ่อนเนื้อที่มีรสชาติหวาน มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ชาวอเมริกันพื้นเมือง ทานพีแคนเป็นอาหารหลัก
Pecan เป็นแหล่ง Omega ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ [1] และปรับปรุงสุขภาพสมอง มีวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วย ในการลดอัตราการเกิดโรคเบาหวาน และช่วยการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ พีแคน 100 กรัมมี Energy 690 kcal และสารอาหารชนิดอื่นดังนี้
ที่มา : Pecan [2]
Pecan มีเอกลักษณ์ในรสชาติที่หวานมัน ซึ่งมาพร้อมกับเนื้อที่กรุบ และกรอบ ความเข้มข้นของรสชาติจะเพิ่มขึ้น เมื่อพีแคนถูกอบหรือคั่ว ทำให้เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการเพิ่มเป็นส่วนประกอบ ในขนมหรือเมนูอาหารต่างๆ
พีแคนสามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี ตั้งแต่การใช้เป็นส่วนประกอบหลัก เช่นพายพีแคน การเพิ่มลงในเค้ก Cookie หรือ brownie ไปจนถึงการใช้เป็นส่วนประกอบในสลัด และเมนูอาหารหลัก เช่น อบกับเนื้อหรือปลา ความหลากหลายของการใช้งาน ทำให้พีแคน เป็นที่ชื่นชอบ ในหมู่ผู้ที่ชอบทำอาหาร
พีแคนสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า Supermarket หรือช่องทาง Online ต่างๆ พีแคนในรูปแบบดิบ เกรดดีเม็ดใหญ่ ปริมาณ 1 กิโลกรัม มีราคาประมาณที่ 900 บาท [3]
การเก็บรักษาพีแคน ควรเก็บในที่เย็น และแห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชื้น ซึ่งอาจทำให้เนื้อหายกรุบกรอบ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบความสดใหม่ ก่อนการบริโภค เนื่องจากพีแคนที่เก็บไว้นาน อาจมีรสชาติเปลี่ยนไป และอาจเกิดเชื้อรา ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
Pecan มากกว่าความอร่อย ด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ การใช้งานที่หลากหลายในเมนูอาหาร และขนม ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ด้วยความเป็นมิตรต่อสุขภาพ และรสชาติที่ไม่เหมือนใคร พีแคน ยังคงเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่า ของโลกอาหาร