Pumpkin หรือ ฟักทอง ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาล halloween และขอบคุณพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเต็มไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ ในบทความนี้ เราจะพาไปดูประวัติประโยชน์ และเทคนิคในการปรุงอาหาร เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากฟักทอง
ฟักทอง ปลูกได้ดี ในดินที่ร่วนซุย และมีการระบายน้ำที่ดี โดยมักปลูกกันอย่างแพร่หลาย ในภูมิภาคที่มีอากาศอบอุ่นถึงเย็น เช่น อเมริกาเหนือ, ยุโรป, และเอเชีย ฟักทองต้องการแสงแดดมาก และเวลาในการเติบโต จากการเพาะปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยวประมาณ 90-120 วัน
การผลิตฟักทองทั่วโลกในปี 2020 อยู่ที่ประมาณ 28 ล้านเมตริกตัน จีนเป็นผู้นำด้านการผลิต โดยคิดเป็นประมาณ 27% ของผลผลิตทั่วโลก [1]
รัฐผู้ผลิตฟักทองอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา Illinois, California, Indiana, Michigan, Pennsylvania, และ Virginia เป็นหนึ่งในรัฐที่ผลิตฟักทองอันดับต้นๆ ในปี 2022 เฉพาะรัฐ Illinois เก็บเกี่ยวฟักทอง ได้มากกว่า 17,600 เอเคอร์ [2]
ฟักทอง มักจะถูกจัดให้อยู่ในหมวดของผัก ในการทำอาหารและการบริโภค แต่จากมุมมองทางพฤกษศาสตร์ ฟักทองเป็นผลไม้ เนื่องจากเป็นผลที่เกิดจากดอกของพืช และมีเมล็ดอยู่ภายในผล
ฟักทองเป็นผลไม้ขนาดใหญ่จากตระกูล Cucurbitaceae ซึ่งรวมถึงแตงโม และแตงกวา มีเปลือกที่แข็งและเนื้อในที่มีสีตั้งแต่เหลือง จนถึงส้มเข้ม ฟักทองมีเมล็ดจำนวนมากภายใน ซึ่งสามารถนำมาอบแห้งเป็น Pumpkin seed อบกรอบ และรับประทานได้
ฟักทองมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ มีหลักฐานการเพาะปลูกฟักทองย้อนกลับไปกว่า 7,000 ปี ในอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ และถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหาร และเป็นเครื่องเก็บรักษาอาหารในช่วงฤดูหนาว
ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามิน A และเส้นใยอาหาร มีแคลอรีต่ำ นอกจากนี้ ยังมีแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ และการควบคุมน้ำหนัก แหล่งข้อมูลที่ 1 คุณค่าทางโภชนาการฟักทอง 100 gram energy 26 kilocalories
ที่มา: ฟักทอง [3]
แหล่งข้อมูลที่ 2 คุณค่าทางโภชนาการฟักทอง 100 gram energy 74 kilocalories
ที่มา: ฟักทอง [4]
เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลทางโภชนาการ ของฟักทองจากทั้งสองแหล่งข้อมูล พบว่ามีความแตกต่างอย่างชัดเจนในหลายๆด้าน ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น สายพันธุ์ของฟักทองที่แตกต่างกัน สภาพดินและสิ่งแวดล้อมที่ปลูก วิธีการวัดและวิเคราะห์ค่าโภชนาการ
ฟักทองมีจำหน่ายทั่วไป ในซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสด หรือผ่านผู้ขายผักผลไม้ท้องถิ่น สามารถหาซื้อได้ทั้งในรูปแบบสด หรือแปรรูปเช่น แช่แข็ง ยกตัวอย่างราคาขายฟักทอง
ฟักทอง ไม่เพียงแต่ให้รสชาติที่ดี และเติมเต็มอาหาร ในฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวเท่านั้น แต่ยังให้คุณประโยชน์มากมาย ที่ดีต่อสุขภาพ