Purple yam หรือ มันม่วง เป็นหนึ่งในพืชที่โดดเด่น ด้วยสีสันสวยงาม และคุณค่าทางโภชนาการที่สูง ไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่อร่อย แต่ยังมีการนำมาใช้ในด้านการแพทย์ และความงาม ให้สีธรรมชาติ และมีสารประกอบ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
มันม่วง ปลูกได้ดี ในสภาพอากาศเขตร้อน และชื้น ต้องการสภาพดินที่ร่วนซุย และการระบายน้ำที่ดี เพื่อให้รากสามารถเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ มันม่วงมีปริมาณการผลิตทั่วโลกประมาณ 303.6 ล้านตัน ในปี 2565 โดยประเทศที่ผลิตมันม่วงมากที่สุดคือ
ที่มา: DATA [1]
มันม่วง เป็นรากพืช ที่มีเนื้อสีม่วงอ่อน ไปจนถึงม่วงเข้ม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dioscorea alata ซึ่งเป็นสมาชิกของวงศ์ Dioscoreaceae เป็นพืชที่ใช้รากเป็นอาหารหลัก เช่นเดียวกับมันฝรั่ง และมันเทศ
มันม่วงมีที่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้รับการนำไปปลูกในหลายภูมิภาคทั่วโลก เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศ และมีรากที่อุดมสมบูรณ์ มีการใช้งานมันม่วงในหลายด้าน ตั้งแต่การทำอาหารจนถึงใช้เป็นส่วนประกอบ ในเครื่องสำอาง
มันม่วงมีวิตามิน C, ไฟเบอร์, และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ มีสารอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และมะเร็ง นอกจากนี้ยังมี Anthocyanin ซึ่งเป็นสารที่ให้สีม่วง และมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แหล่งข้อมูลที่ 1 ระบุว่ามันม่วง 100 กรัม ให้สารอาหารดังนี้
ที่มา: 10 Benefits [2]
แหล่งข้อมูลที่ 2 ระบุว่ามันม่วง 100 กรัม ให้พลังงาน 140 Calories และสารอาหารดังนี้
ที่มา: 7 Benefits [3]
มันม่วงสามารถหาซื้อได้ที่ตลาดสด ในประเทศที่มีการปลูก ในตลาดนานาชาติ หรือในร้านค้าเฉพาะที่ขายผลิตภัณฑ์จากเอเชีย บางครั้งก็มีจำหน่ายในรูปแบบแช่แข็ง หรือแปรรูปใน supermarket หรือช่องทาง Online ก็มีให้เลือกซื้ออย่างสะดวกสบาย ยกตัวอย่าง Online website
มันม่วง สามารถนำมาทำอาหารได้หลายวิธี เช่น ต้ม, ทอด, นึ่ง หรือบดแล้วนำมาทำเป็นเค้กมันม่วง ในหลายเมนูอาหาร มันม่วงยังใช้ในการทำขนมหวาน เช่น ไอศกรีมมันม่วง หรือขนมปังมันม่วงสอดไส้ครีม Coconut เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้ากัน และสีสันที่น่าดึงดูด
มันม่วง เป็นพืชที่มีความสำคัญ ทั้งในด้านโภชนาการ และวัฒนธรรมการกิน สีสันที่สวยงาม และคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้มันม่วงเป็นที่นิยมอย่างมาก ในการปรุงอาหาร และผลิตภัณฑ์อื่นๆทั่วโลก