Red Oak หรือ เรดโอ๊ค เป็นผักใบสีแดง ที่ได้รับความนิยมในการปรุงอาหาร หลากหลายสไตล์ ด้วยสีสันที่สวยงาม และรสชาติที่ทานง่าย ในบทความนี้ เราจะทำความรู้จักกับเรดโอ๊ค ตั้งแต่ที่มาจนถึงวิธีการนำมารับประทาน และประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพ
เรดโอ๊คมักปลูกในดิน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีการระบายน้ำดี เติบโตได้ดีในสภาพอากาศ ที่อบอุ่นถึงเย็น ผักชนิดนี้ ปลูกได้ง่ายและเติบโตเร็ว ทำให้เป็นที่นิยม ในหลายประเทศทั่วโลก
เรดโอ๊คเป็นพืชประจำปี และสามารถเติบโตได้สูงถึง 12 นิ้ว โดยทั่วไป จะมีวงจรการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว และสามารถเก็บเกี่ยวได้ ภายในประมาณ 45-60 วันหลังปลูก [1]
เรดโอ๊คเป็นผักสลัดชนิดนึ่ง ที่มีลักษณะที่ช่วงโคนใบเป็นสีเขียว ปลายมีใบสีแดงสด หรือม่วงแดง โดยมีลักษณะใบที่ฟู และมีขอบหยัก ใบของเรดโอ๊ค มีความกรอบ และมีรสชาติอ่อนๆ นิยมใช้ในการทำสลัด เพื่อเพิ่มสีสัน และรสชาติให้กับจานอาหาร
ผักสลัดเรดโอ๊ค มีต้นกำเนิดในยุโรป และได้รับการนำเข้าสู่อเมริกาเหนือ ในช่วงของต้นศตวรรษที่ 19 ผักสลัดเรดโอ๊ค ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ในหมู่เกษตรกร และนักปรุงอาหาร เนื่องจากความงดงาม และรสชาติที่โดดเด่น ทำให้เป็นที่น่าสนใจ
เรดโอ๊คอุดมไปด้วยวิตามิน ที่ช่วยส่งเสริมการมองเห็นที่ดี และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ยังมีไฟเบอร์สูง ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร และป้องกันโรคหัวใจ แหล่งข้อมูลที่ 1 ระบุว่าเรดโอ๊คปริมาณ 100 กรัม มี Total energy 20 kilocalories
ที่มา: พลังงานและสารอาหารจาก เรดโอ๊ค [2]
แหล่งข้อมูลที่ 2 ระบุว่าเรดโอ๊คปริมาณ 100 กรัม มี Total energy 16 kilocalories
ที่มา: Red Leaf Lettuce [3]
เรดโอ๊คมีจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดผักและผลไม้ หรือร้านขายอาหารสุขภาพทั่วไป มักจำหน่ายในรูปแบบสด สำหรับใช้ในการปรุงอาหาร ยกตัวอย่างราคาขายทั่วไปที่ขายทางออนไลน์
สลัดเรดโอ๊ค และผลไม้ ใช้ใบเรดโอ๊คสด เป็นฐานสลัด เติมผลไม้สดอย่าง Strawberry หั่นเสี้ยว, แอปเปิลหั่นเต๋า, และผลอโวคาโดหั่นชิ้น โรยหน้าด้วยถั่วเม็ดแข็ง หรืออัลมอนด์คั่ว สำหรับเพิ่มความกรุบกรอบ ราดด้วยน้ำสลัด Honey Mustard Vinaigrette
สลัดเรดโอ๊คคลาสสิก ใบเรดโอ๊คสด ผสมกับชีสพาร์เมซานขูด, หอมหัวใหญ่, และมะเขือเทศหั่นเต๋า ราดด้วยน้ำสลัด Balsamic หรือน้ำสลัด Caesar โรยหน้าด้วยเบคอนกรอบ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เรดโอ๊คเป็นผักใบแดง ที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ สามารถเติมเต็มและปรับปรุงรสชาติของอาหารได้หลากหลาย ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ ในหมู่นักปรุง และผู้รักสุขภาพทั่วโลก