Turnip หรือ เทอร์นิพ เป็นผักหัวที่ได้รับความนิยม ด้วยความหลากหลายในการใช้งาน และประโยชน์มากมาย ที่มีต่อสุขภาพ ในบทความนี้ เราจะพามาศึกษาเรื่องราว ประโยชน์ และแนวทางการรับประทานเทอร์นิพ เพื่อให้ทุกคน ได้รู้จักกับผักชนิดนี้ให้มากขึ้น
เทอร์นิพ ปลูกได้ง่าย และเติบโตเร็ว มักปลูกในดินร่วนซุย ที่มีการระบายน้ำดี เหมาะสำหรับการปลูกในอากาศหนาวเย็น สามารถปลูกได้ในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง ในเขตอบอุ่น หรือตลอดทั้งปี ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
ปริมาณผลผลิต ของเทอร์นิพ ในแต่ละปี มีการเปลี่ยนแปลง ตามปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศ พื้นที่การปลูก และการบริหารจัดการ ทางการเกษตร ตามข้อมูลล่าสุดที่ได้รับ
ที่มา : Turnip [1]
เทอร์นิพ เป็นผักหัว ที่สามารถบริโภคได้ทั้งหัว และใบ มีลักษณะหัวกลม ผิวสีขาวถึงม่วง ใบเป็นสีเขียวเข้ม และมีรสชาติอ่อนๆ เมื่อปรุงสุก แต่จะกรอบ และหวานเล็กน้อย เมื่อรับประทานสด สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายแบบ
เทอร์นิพ มีถิ่นกำเนิดในยุโรป และเอเชียตะวันตกเฉียงเหนือ ถูกใช้เป็นอาหาร มาตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ และได้รับการนำไปเพาะปลูก ในหลายพื้นที่ของโลก เนื่องจากความสามารถ ในการปรับตัวสูง และคุณค่าทางโภชนาการที่ดี ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
เทอร์นิพ มี vitamin C และ fiber สูงและมี calories ต่ำ ช่วยในการย่อยอาหาร และลดน้ำหนัก รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ อาทิเช่น โรคหัวใจและมะเร็ง แหล่งข้อมูลที่ 1 เทอร์นิพปริมาณ 1 ถ้วย มี Calories 36
ที่มา: All You Need to Know About Turnips [2]
แหล่งข้อมูลที่ 2 เทอร์นิพปริมาณ 1 ถ้วย มี Calories 36
Total fat 0.4 g
ที่มา: หัวผักกาด [3]
ข้อมูลทั้งสองแหล่ง มีความตรงกัน ในด้านพลังงานที่ให้มา แต่มีความแตกต่าง ในปริมาณสารอาหารหลักๆ และมีแหล่งข้อมูล ที่ให้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากกว่า ซึ่งอาจเกิดจากการใช้แหล่งข้อมูลต่างกัน หรือวิธีการวัด และวิเคราะห์ ที่ไม่เหมือนกัน
เทอร์นิพ มีจำหน่ายในตลาดสด supermarket และร้านขายผักผลไม้นำเข้า โดยสามารถพบได้ทั้งในรูปแบบหัวสด หรือหัวที่แปรรูปเช่น ถูกหั่นหรือดอง ยกตัวอย่างราคาขายทาง online
เทอร์นิพ เป็นผักหัว ที่มีประโยชน์มากมาย และสามารถใช้ในการปรุงอาหาร ได้หลายวิธี นอกจากจะมีความอร่อย และให้ประโยชน์ ทางโภชนาการแล้ว ยังเป็นผักที่เพาะปลูกได้ง่าย และเติบโตได้ดี ในหลายพื้นที่ทั่วโลก