บัควีท ปลอดกลูเตน (Buckwheat) เมล็ดพืชเพื่อสุขภาพ

บัควีท ปลอดกลูเตน

บัควีท ปลอดกลูเตน Buckwheat เป็นธัญพืชชนิดหนึ่ง ที่มักได้รับการยกย่อง ในแวดวงอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากคุณค่าทางโภชนาการที่สูง และประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แม้ว่าจะมีชื่อว่า “บัควีท” แต่บัควีทไม่ได้เป็นพืชตระกูลข้าวสาลี และไม่มีส่วนประกอบของกลูเตน จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน

บัควีท ปลอดกลูเตน เมล็ด Buckwheat คืออะไร

บัควีทเป็นพืชเมล็ดชนิดหนึ่ง ที่ไม่ได้อยู่ในตระกูลข้าวสาลีหรือ ข้าวฟ่างไข่มุก เหมือนธัญพืชทั่วไป แต่เป็นพืชตระกูล Polygonaceae เมล็ดของบัควีท ถูกนำมาใช้ในการทำแป้ง และผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ บัควีทเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในแวดวงอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะไม่มีส่วนประกอบของกลูเตน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน หรือเป็นโรคเซลิแอค

นอกจากนี้ บัควีทยังเป็นแหล่งของสารอาหารที่มีคุณค่า เช่นโปรตีน, ไฟเบอร์, วิตามินบี, แมกนีเซียม, เหล็ก, และสารต้านอนุมูลอิสระ บัควีทสามารถนำมาปรุงอาหาร ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งเป็นขนมปัง, เส้นพาสต้า, เครป หรือใช้แทนข้าวในเมนูต่างๆ

บัควีทปลอดกลูเตน คุณค่าโภชนาการบัควีท

บัควีทอุดมไปด้วยสารอาหาร ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีปริมาณไฟเบอร์สูง ที่ช่วยในการย่อยอาหาร และการควบคุมน้ำตาลในเลือด นี่คือข้อมูลสารอาหารในบัควีท ต่อ 1 ถ้วย (120 กรัม) ดังนี้

  • พลังงาน 335 กิโลแคลอรี
  • โปรตีน 12.6 g.
  • คาร์โบไฮเดรต 70.6 g.
  • ใยอาหาร 10 g. 40 %
  • ไขมัน 3.1 g.
  • ไขมันอิ่มตัว 0.7 g.
  • โพแทสเซียม 577 ml. 17 %
  • แมกนีเซียม 63 %
  • เหล็ก 23 %
  • ฟอสฟอรัส 34 %
  • วิตามินบี6 29 %
  • ไทอามิน 28 %
  • ไรโบฟลาวิน 11 %
  • ไนอาซิน 31 %

ที่มา: พลังงานและสารอาหาร [1]

 

บัควีทปลอดกลูเตน ประโยชน์บัควีทต่อสุขภาพ

  • ปราศจากกลูเตน: บัควีทเป็นอาหาร ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องหลีกเลี่ยงกลูเตนเช่นเดียวกับ ข้าวฟ่าง ปลอดกลูเตน และ ควินัว ปลอดกลูเตน เนื่องจากไม่ใช่ธัญพืชที่แท้จริง แต่เป็นเมล็ดพืช จากพืชตระกูล Polygonaceae
  • ช่วยลดความดันโลหิต: แมกนีเซียมในบัควีท ช่วยในการขยายหลอดเลือด และลดความดันโลหิต ซึ่งมีส่วนช่วย ในการป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
  • เสริมสร้างระบบย่อยอาหาร: บัควีทมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และป้องกันการเกิดอาการท้องผูก
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: บัควีทมีดัชนีน้ำตาลต่ำ ทำให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
  • เพิ่มพลังงาน และความทนทาน: โปรตีนที่มีอยู่ในบัควีท เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง และสามารถเพิ่มพลังงาน และความทนทาน ให้กับร่างกายได้

ที่มา: Buckwheat [2]

 

บัควีทปลอดกลูเตน การนำบัควีทมาใช้ในอาหาร

บัควีท ปลอดกลูเตน

บัควีทเป็นส่วนประกอบที่หลากหลาย และสามารถนำมาใช้ในอาหาร ได้หลายประเภท เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และปราศจากกลูเตน จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพ หรือแพ้กลูเตน การนำบัควีทมาใช้ในอาหารมีหลายวิธีเช่น

  • บัควีทโจ๊ก บัควีทโจ๊กเป็นอาหารเช้าที่ง่าย และมีคุณค่าทางอาหารสูง เพียงต้มบัควีทในน้ำหรือนม แล้วปรุงรสตามชอบ เช่นเติมน้ำผึ้ง ผลไม้ หรือถั่วเพื่อเพิ่มรสชาติ
  • สลัดบัควีท สามารถนำบัควีทต้มสุก มาผสมกับผักสดต่างๆ เช่นแตงกวา มะเขือเทศ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำสลัดมะนาว หรือน้ำมันมะกอก เป็นเมนูสลัดที่สดชื่น และอร่อย
  • บัควีทเครป ในอาหารฝรั่งเศส บัควีทมักถูกนำมาใช้ทำแป้งเครป โดยผสมแป้งบัควีทกับน้ำ ไข่ และเกลือ ทอดเป็นแผ่นบางๆ แล้วใส่ไส้ต่างๆ เช่นผักโขม ชีส หรือแฮม เป็นอาหารที่เหมาะกับทุกมื้อ
  • ขนมปังบัควีท บัควีทสามารถใช้แทนแป้งข้าวสาลี ในขนมปังได้ โดยใช้แป้งบัควีท ผสมกับแป้งอื่นๆ เพื่อทำขนมปังที่นุ่ม และมีคุณค่าทางอาหารสูง นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มเมล็ดธัญพืชต่างๆ เช่นเมล็ดทานตะวัน หรือเมล็ดฟักทอง เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัส และรสชาติ
  • บัควีทพาสต้า หรือโซบะ บัควีทยังสามารถนำมาใช้ทำเส้นโซบะ ซึ่งเป็นเส้นพาสต้าของญี่ปุ่น นิยมรับประทานกับซุป หรือเสิร์ฟแบบเย็นกับน้ำจิ้มซอสถั่วเหลือง
  • บัควีทคุกกี้หรือขนมอบ แป้งบัควีทสามารถนำมาใช้ทำขนมอบ เช่นคุกกี้หรือมัฟฟิน โดยผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่นช็อกโกแลตชิปหรือถั่ว เพื่อทำขนมที่หวานน้อย และมีไฟเบอร์สูง

บัควีทปลอดกลูเตน ข้อแนะนำการบริโภคบัควีท

  • เริ่มจากปริมาณเล็กน้อย: หากไม่เคยบริโภคบัควีทมาก่อน ควรเริ่มจากปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว และตรวจสอบ ว่ามีอาการแพ้หรือไม่
  • เลือกบัควีทที่ผ่านการแปรรูป: ควรเลือกบัควีทที่ผ่านการแปรรูปอย่างดี เช่นบัควีทที่ผ่านการล้าง และคัดสรรแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน จากสิ่งสกปรกหรือสารเคมี
  • ปรุงให้สุกก่อนบริโภค: บัควีทควรปรุงให้สุก ก่อนการบริโภค เช่นต้มในน้ำหรือนม การปรุงสุกช่วยลดความเสี่ยงจาก anti-nutrients ที่อาจมีอยู่ในบัควีทดิบ
  • บริโภคเป็นส่วนหนึ่ง ของอาหารที่หลากหลาย: ควรบริโภคบัควีท เป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่หลากหลาย ไม่ควรบริโภคบัควีทเพียงอย่างเดียว ในปริมาณมาก

บัควีทปลอดกลูเตน ข้อควรระวังการบริโภคบัควีท

  • อาการแพ้บัควีท: แม้ว่าบัควีทจะเป็นอาหาร ที่ปราศจากกลูเตน แต่บางคนอาจมีอาการแพ้บัควีท ซึ่งอาจแสดงอาการเช่น ผื่นคัน ปวดท้อง หรือหายใจลำบาก หากเกิดอาการแพ้ ควรหยุดบริโภคทันที และปรึกษาแพทย์
  • ปริมาณไฟเบอร์สูง: บัควีทมีปริมาณไฟเบอร์สูง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด หรือท้องเสีย ในบางคน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่คุ้นเคย กับการบริโภคไฟเบอร์ ในปริมาณมาก ควรเพิ่มปริมาณบัควีท ในอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • สารต้านโภชนาการ (Anti-nutrients): บัควีทอาจมีสารต้านโภชนาการ เช่นPhytic acid ซึ่งสามารถลดการดูดซึมของแร่ธาตุ เช่นแคลเซียม เหล็ก และแมกนีเซียม การปรุงบัควีทให้สุก สามารถลดปริมาณสารเหล่านี้ได้
  • ไม่ควรบริโภคบัควีทดิบ: การบริโภคบัควีทดิบ หรือไม่สุกดี อาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหาร เช่นท้องอืดหรือท้องเสีย จึงควรปรุงบัควีทให้สุกก่อนทุกครั้ง

ที่มา: ข้อดีและข้อเสียของบัควีท [3]

 

สรุป บัควีท ปลอดกลูเตน ธัญพืชที่ปรุงอาหารได้หลากหลาย

บัควีทเป็นธัญพืช ที่ปราศจากกลูเตน และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน หรือผู้ที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพ บัควีทสามารถนำมาปรุงอาหาร ได้หลากหลาย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการบริโภค โดยเริ่มจากปริมาณเล็กน้อย และควรปรุงให้สุกก่อนรับประทาน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

231