ควินัว โปรตีนสูง และประโยชน์หลากหลายในควินัว

ควินัว โปรตีนสูง

ควินัว โปรตีนสูง เป็นธัญพืชที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในวงการสุขภาพ เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการเสริมโปรตีน ในอาหารประจำวัน โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ หรือผู้ที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์

ควินัวโปรตีนสูง ประวัติของควินัวจาก Andes

ควินัวเป็นพืช ที่มีความสำคัญในวัฒนธรรม และอาหารของชนพื้นเมืองในอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ Andes การปลูกควินัวมีมาตั้งแต่ยุคโบราณ และเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญ สำหรับชนเผ่า Inca

ในปี 2013 องค์การอาหาร และการเกษตร แห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ประกาศให้ปีนั้นเป็น “ปีสากลของควินัว” เพื่อส่งเสริมการผลิตและการบริโภคควินัวทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้คน ได้รับประโยชน์จากคุณค่าทางโภชนาการ ของพืชชนิดนี้

ควินัวโปรตีนสูง ควินัวคืออะไร วิธีการบริโภคควินัว

ควินัวเป็นพืช ที่มีต้นกำเนิดจากภูมิภาค Andes ในอเมริกาใต้ โดยเฉพาะประเทศ Bolivia, Peru, และ Ecuador ควินัวมีการเพาะปลูก และบริโภคมากกว่า 5,000 ปีมาแล้วในหมู่ชนพื้นเมือง เนื่องจากคุณค่าทางโภชนาการสูง ควินัวเป็นธัญพืชเทียม (pseudo-cereal) ซึ่งหมายความว่า แม้จะไม่ใช่ธัญพืชแท้ แต่ก็ถูกใช้ในวิธีเดียวกับข้าว หรือข้าวสาลี

ควินัวสามารถใช้เป็นส่วนประกอบ ในอาหารได้หลากหลาย เช่นใส่ในสลัด ใช้แทนข้าว ในอาหารจานหลัก หรือใช้เป็นวัตถุดิบในซุป และของหวาน การปรุงควินัวก็ง่าย และสะดวก เพียงแค่ล้างน้ำ แล้วนำไปต้มในน้ำประมาณ 15-20 นาทีจนสุก ก็สามารถนำไปประกอบอาหารได้ทันที

ควินัวโปรตีนสูง ประเภทที่นิยมของควินัว

ควินัว โปรตีนสูง

ควินัวเป็นพืชที่สูงประมาณ 1-2 เมตร มีใบที่คล้ายผักโขม และดอกขนาดเล็ก เมล็ดของควินัว มีลักษณะกลมเล็ก มีหลายสี เช่น ขาว แดง ดำ และหลากสี เมล็ดเหล่านี้เป็นส่วนที่นำมาใช้บริโภค ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำอาหารที่หลากหลาย โดยสามารถนำไปหุงเหมือนข้าว หรือทำเป็นแป้ง เพื่อนำไปใช้ทำขนมปัง หรือขนมอื่นๆ

ควินัวมีหลายพันธุ์ แต่ที่นิยมที่สุดคือ

  • ควินัวขาว (White Quinoa): มีรสชาตินุ่มนวล และเนื้อสัมผัสเบา เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทานควินัว
  • ควินัวแดง (Red Quinoa): มีรสชาติเข้มข้นกว่า และเนื้อสัมผัสแข็งกว่าเล็กน้อย มักใช้ในสลัด เพราะเมล็ดคงรูป หลังการหุง
  • ควินัวดำ (Black Quinoa): มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และเนื้อสัมผัสที่แข็งที่สุด ในบรรดาทุกประเภท

ควินัวโปรตีนสูง คุณค่าทางโภชนาการควินัว

ควินัวเป็นอาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยให้สารอาหารสำคัญในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับการบริโภคประจำวัน ข้อมูลโภชนาการของควินัวที่สุกแล้ว (1 ถ้วย หรือประมาณ 185 กรัม) มีดังนี้

  • โปรตีน: 8 g.
  • ไขมันทั้งหมด: 6 g.
  • คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด: 39 g.
  • ใยอาหาร: 5 g.
  • น้ำตาล: 1 g.
  • แมงกานีส: 58%
  • แมกนีเซียม: 30%
  • ฟอสฟอรัส: 28%
  • โฟเลต: 19%
  • ทองแดง: 18%
  • เหล็ก: 15%
  • สังกะสี: 13%
  • โพแทสเซียม: 9%

ที่มา: รู้จัก ควินัว คืออะไร [1]

 

ควินัวโปรตีนสูง ประโยชน์ของโปรตีนในควินัว

โปรตีนในควินัว มีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากควินัวเป็นแหล่งโปรตีน ที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ซึ่งถือว่าเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์แบบ ที่หาได้ยากในพืช นอกจากนี้ โปรตีนในควินัว ยังมีบทบาทสำคัญ ในการซ่อมแซม และสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย รวมถึงช่วยในการเจริญเติบโต และพัฒนาการในเด็ก วัยรุ่น และหญิงตั้งครรภ์

ควินัวยังเป็นแหล่งที่ดีของแมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ และการทำงานต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังเช่นโรคหัวใจ [2]

ควินัวโปรตีนสูง ประโยชน์อื่นๆของควินัว

  • โปรตีนสูง: ควินัวมีปริมาณโปรตีนที่สูง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโปรตีนในอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • ไฟเบอร์สูง: การบริโภคควินัว ช่วยเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  • เหมาะสำหรับผู้แพ้กลูเตน: ควินัว ปลอดกลูเตน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาแพ้กลูเตน หรือผู้ที่ต้องการลดการบริโภคกลูเตน
  • พลังงานต่ำ: ควินัวเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
    ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง: ควินัวมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจและมะเร็ง

ที่มา: Superfood ควินัวธัญพืชต้านโรค [3]

 

สรุป ควินัว โปรตีนสูง ธัญพืชมีโปรตีน มีไฟเบอร์

ควินัวเป็นธัญพืชที่มีโปรตีนสูง และเต็มไปด้วยสารอาหาร ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมโปรตีน ไฟเบอร์ หรือการช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง การเพิ่มควินัวลงในเมนูอาหารเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้การบริโภคอาหาร มีความหลากหลาย และมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

240