ผักที่ห้ามกินดิบ มีอะไรบ้าง ที่อันตรายและควรระวัง

ผักที่ห้ามกินดิบ

ผักที่ห้ามกินดิบ มีอะไรบ้างที่ควรระวัง การรับประทานผักสดๆ เป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากผักมีวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์สูง ที่ดีต่อร่างกาย แต่ไม่ใช่ทุกชนิดของผัก ที่สามารถรับประทานดิบได้ บางชนิดอาจมีสารพิษที่ทำให้เกิดอันตราย บทความนี้จะนำเสนอผักบางชนิด ที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานดิบ

ผักที่ห้ามกินดิบ มีอะไรบ้าง สารอันตราย

  • มันฝรั่ง (Potato) มันฝรั่งดิบมีสาร Solanine ซึ่งเป็นสารพิษธรรมชาติ ที่สามารถทำให้เกิดอาการท้องเสีย ปวดหัว และอาเจียน ควรปรุงสุกมันฝรั่งก่อนรับประทานเสมอ
  • ถั่วฝักยาว (Green Beans) ถั่วฝักยาวดิบมีสาร Phasin ที่สามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย ควรปรุงสุกก่อนรับประทาน
  • มะเขือเทศ (Tomato) มะเขือเทศดิบอาจมีสาร Solanine ในปริมาณเล็กน้อย แต่การปรุงสุก จะช่วยลดปริมาณสารนี้ และเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม Lycopene ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • หน่อไม้ (Bamboo Shoots) หน่อไม้ดิบมีสาร Cyanogenic Glycosides ที่สามารถทำให้เกิดอาการพิษได้ ควรต้มหน่อไม้ ก่อนรับประทาน เพื่อกำจัดสารพิษนี้
  • เห็ด (Mushrooms) เห็ดบางชนิด อาจมีสารพิษธรรมชาติ ที่ไม่สามารถถูกทำลาย ได้ด้วยการปรุงสุก ควรเลือกเห็ดที่ปลอดภัย และรับประทานตามคำแนะนำ
  • ฟักทอง (Pumpkin) ฟักทองดิบมีสารพิษ ที่สามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ และท้องเสีย ควรปรุงสุกก่อนรับประทาน

ที่มา: ให้โทษมากกว่าประโยชน์ [1]

 

ผักที่ห้ามกินดิบ ข้อระวังการทานผักดิบ ปริมาณผักต่อวัน

การบริโภคผักในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน เป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ โดยทั่วไปแล้ว ควรบริโภคผักประมาณ 400 กรัม ต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 5 ส่วน (servings) ของผัก และผลไม้รวมกัน และสำหรับข้อควรระวังในการรับประทานผักดิบมีดังนี้

  • ควรล้างผักให้สะอาด ก่อนการรับประทาน เพื่อกำจัดสารเคมี และสิ่งสกปรก ที่อาจติดอยู่
  • ควรปรุงผักให้สุกเพียงพอ เพื่อกำจัดสารพิษ และเอนไซม์ที่เป็นอันตราย
  • หากไม่แน่ใจว่าผักชนิดใด สามารถรับประทานดิบได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ด้านโภชนาการ

ที่มา: How Many Servings of Vegetables [2]

 

ผักที่ห้ามกินดิบ และผักที่กินดิบได้ มีอะไรบ้าง

ผักที่ห้ามกินดิบ

การรับประทานผักสดๆ โดยไม่ต้องผ่านการปรุงสุก เป็นวิธีที่ดี ในการรักษาคุณค่าทางโภชนาการ วิตามิน และแร่ธาตุของผัก ผักที่สามารถรับประทานดิบได้ อย่างปลอดภัย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตัวอย่างเช่น

  • แตงกวา (Cucumber) แตงกวาดิบมีน้ำเยอะ รสชุ่มฉ่ำ และมีแคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับการทำสลัด หรือรับประทานเล่น
  • พริกหวาน Bell Pepper พริกหวานดิบ มีรสหวานกรอบ และมีวิตามินซีสูง สามารถหั่นเป็นเส้น หรือวง แล้วใส่ในสลัด หรือทานคู่กับ Dips ต่างๆ
  • ผักกาดแก้ว (Iceberg Lettuce) ผักกาดแก้วดิบ มีรสกรอบหวาน และมีน้ำเยอะ เหมาะสำหรับการทำสลัด หรือห่ออาหาร
  • เซเลอรี Celery เซเลอรีดิบมีรสกรอบ และมีไฟเบอร์สูง เหมาะสำหรับการรับประทานเล่น หรือทำสลัด

ที่มา: 25 Best Vegetables to Eat Raw [3]

 

ผักที่ห้ามกินดิบ ตัวอย่างมันฝรั่งห้ามกินดิบ

มันฝรั่งห้ามกินดิบ มันฝรั่งเป็นผัก ที่มีสารโซลานีนซึ่งเป็นสารพิษ ที่สามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว และปวดท้องได้ เมื่อมันฝรั่งถูกทำให้สุก สารโซลานีนจะถูกทำลาย และปลอดภัยต่อการบริโภค

  • วิธีการบริโภคมันฝรั่ง อย่างปลอดภัย: ต้ม นึ่ง หรืออบมันฝรั่งจนสุก
  • หลีกเลี่ยงการกินมันฝรั่งที่มีรอยเขียว ซึ่งเป็นสัญญาณ ของการมีสารโซลานีนสูง

ผักที่ห้ามกินดิบตัวอย่าง หน่อไม้ห้ามกินดิบ

หน่อไม้ห้ามกินดิบ หน่อไม้ดิบมีสารไซยาโนเจน (Cyanogenic glycosides) ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ ในร่างกาย หากกินในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดพิษ ถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

  • วิธีการบริโภคหน่อไม้ อย่างปลอดภัย: ต้มหน่อไม้ก่อนกิน เพื่อกำจัดสารไซยาโนเจน
  • เปลี่ยนน้ำในการต้มหน่อไม้หลายๆ ครั้งเพื่อให้สารพิษลดลง

ผักที่ห้ามกินดิบตัวอย่าง มะเขือเทศควรกินสุก

มะเขือเทศควรกินสุก มะเขือเทศมีสารไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การทำให้มะเขือเทศสุก จะช่วยเพิ่มปริมาณของไลโคปีน ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้

  • วิธีการบริโภคมะเขือเทศ อย่างปลอดภัย: ทำให้มะเขือเทศสุก ด้วยการต้ม นึ่ง หรืออบ
  • การนำมะเขือเทศไปทำซอส หรือน้ำมะเขือเทศ ก็เป็นวิธีที่ดี ในการเพิ่มปริมาณไลโคปีน

สรุป ผักที่ห้ามกินดิบ รู้ไว้เพื่อป้องกันการได้รับสารพิษ

การบริโภคผักที่ถูกต้อง คือการรู้จักว่าผักชนิดใดที่ควรปรุงสุกก่อน เพื่อป้องกันการได้รับสารพิษ และเพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพ การทำให้ผักสุก จะช่วยทำลายสารพิษ ที่อาจเกิดขึ้น และทำให้เราสามารถรับประโยชน์จากผักได้อย่างเต็มที่

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

286