รีวิว เที่ยว บาธ (Bath) เมืองโรมันสุดละมุนแห่งอังกฤษ เดินชมอาบน้ำโบราณ วิหารสวย

เที่ยว บาธ เมืองหนึ่งในจุดหมายที่คนอังกฤษเองยังเลือกไปพักผ่อนในวันหยุด เพราะมันไม่ใช่เมืองใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เมืองเงียบจนไม่มีชีวิต การเที่ยวบาธด้วยตัวเอง เหมือนการได้ย้อนเวลากลับไปยุคโรมัน แล้วค่อยๆ เดินออกมาสู่ยุครีเจนซีที่สง่างาม เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ใช้เวลาเดินทางจากลอนดอนเพียงชั่วโมงครึ่ง

เมื่อเดินเข้ามาในใจกลางเมือง บรรยากาศจะเปลี่ยนไปทันทีจากโทนเร่งรีบของลอนดอน กลายเป็นความช้าแบบนุ่มนวล เสียงระฆังของ Bath Abbey ดังประสานกับเสียงนกร้อง ส่วนลมเย็นพัดกลิ่นน้ำแร่ลอยมาตามถนนหินเก่า บาธเป็นเมืองที่เหมาะกับการเดินไปเรื่อยๆ เพราะทุกตรอกซอกซอยคือมุมถ่ายรูป (9 พฤศจิกายน 2024) [1]

แม้เมืองนี้จะไม่ใหญ่ แต่รายละเอียดของมันมีให้ค้นไม่จบ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ที่เชื่อมยุคโรมันกับอังกฤษยุคใหม่ ไปจนถึงความละเมียดของชีวิตผู้คนที่ยังรักษาวัฒนธรรมการดื่มชา ยืนชมแม่น้ำ และฟังเพลงสดตอนเย็น บาธจึงเป็นเมืองที่ทั้งสงบแต่ไม่เงียบ และเต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง

บาธเมืองโรมันยุคเก่า ที่เดินแล้วเหมือนอยู่ในหนังอังกฤษโบราณ
เส้นทางแบบเดินเท้า เที่ยว บาธ เก็บครบที่สำคัญ
จุดถ่ายรูป + มุมที่มาแล้วห้ามพลาด

บาธ เมืองโรมันยุคเก่าที่กลายเป็นเมืองรีเจนซีสุดละมุน เดินแล้วเหมือนอยู่ในหนังอังกฤษ

สิ่งแรกที่ทำให้บาธแตกต่างจากเมืองอื่นในอังกฤษ คือประวัติศาสตร์ของมันที่ยาวนานกว่าสองพันปี เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดยชาวโรมันตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางอาบน้ำแร่ธรรมชาติ (Roman Bath) ซึ่งยังคงมีบ่อน้ำร้อนเดือดอยู่จริงจนถึงทุกวันนี้ (2021-2025) [2]

ย่านใจกลางเมืองเต็มไปด้วยอาคารหิน Bath Stone สีครีมทองที่ดูอบอุ่นเมื่อกระทบแดด ซึ่งเชื่อมกันด้วยถนนเล็กๆ ปูหินเก่าที่ยังเดินได้จริง ไม่ใช่แค่ตกแต่งไว้สำหรับนักท่องเที่ยว บรรยากาศทั้งหมดดูเหมือนฉากในหนังอังกฤษโบราณ ที่มีชีวิตจริงอยู่ตรงหน้า นักรีวิวสายถ่ายรูปบอกว่า ถ่ายตรงไหนก็ได้ฟีลยุครีเจนซีแบบไม่ต้องพยายามจัดมุม

และสิ่งที่ทำให้บาธน่าหลงรักมากขึ้นคือความมีชีวิตของผู้คนในเมืองเล็กๆนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน มัคคุเทศก์ ร้านขนมพื้นบ้าน หรือวงดนตรีสดข้างถนน ทุกคนยิ้มและทักทายกันง่ายๆ เมืองจึงให้พลังความอบอุ่นที่ไม่เหมือนเมืองอังกฤษอื่นๆเลย ถ้ามาลองใช้เวลาเดินเล่นรอบ บาธแอบบีย์ ตอนเย็น จะเห็นทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมานั่งพัก

ที่เที่ยวห้ามพลาดในเมืองบาธ

The Roman Baths: บ่อน้ำร้อนธรรมชาติยุคโรมันที่ยังใช้งานได้จริง (ค่าเข้าประมาณ 25 ปอนด์)
Bath Abbey: มหาวิหารกลางเมืองที่เปิดให้ขึ้นหอชมวิว 360°
Royal Crescent: แถวบ้านครึ่งวงกลมสีทองอันโด่งดังของยุครีเจนซี
Pulteney Bridge: สะพานหินเหนือแม่น้ำ Avon ที่มีร้านกาแฟเล็กๆ ซ่อนอยู่ด้านบน

รีวิวจากอินฟลูฯ ที่มีความเห็นตรงกันสำหรับเมืองมบาธ

เมืองนี้เดินง่ายที่สุดในอังกฤษ ทุกที่อยู่ในรัศมี 1 กม.
ถ่ายรูปตอนแดดอ่อน หรือฝนตกปรอยก็ออกมาสวย
ร้านคาเฟ่รอบแม่น้ำราคาไม่แรง แถมวิวเหมือนในซีรีส์ Bridgerton

เส้นทางเที่ยวบาธแบบเดินเท้า เก็บครบแลนด์มาร์ก

บาธเป็นเมืองที่คนส่วนใหญ่ทำเดย์ทริปจาก ลอนดอน แต่จริงๆ แล้วควรค้างอย่างน้อย 1 คืน เพื่อเก็บบรรยากาศให้ครบ เส้นทางเที่ยวแบบเดินได้ทั้งวัน คือจุดที่ทำให้บาธแตกต่างจากเมืองใหญ่ เพราะถนนไม่ซับซ้อน และทุกซอยเชื่อมถึงกัน

เส้นทางแนะนำ สำหรับหนึ่งวันเต็ม

เริ่มที่สถานีรถไฟ Bath Spa เดินออกมาก็เจอวิวเมืองทันที
เดินไป มหาวิหารบาธ ถ่ายรูปกับอาคารสีทอง แล้วต่อเข้าชม Roman Bath ข้างๆ
ช่วงเที่ยง เดินขึ้นเนินไป รอยัล เครสเซนต์ ผ่านสวน Royal Victoria Park
บ่ายแก่ๆ แวะ สะพานพัลต์นีย์ จิบกาแฟริมแม่น้ำ Avon
ค่ำ เดินเล่นถนน Milsom Street แสงไฟสะท้อนหินครีมทั้งเมือง

คาเฟ่และร้านอาหารที่คนรีวิวไว้ดีที่สุด

Society Café – วิวสะพาน Pulteney บรรยากาศอบอุ่น
The Ivy Bath Brasserie – ร้านอาหารยุครีเจนซีสุดหรูถ่ายรูปขึ้นกล้อง
Sally Lunn’s Historic Eating House – ร้านขนมปังเก่าแก่ที่สุดในบาธ

อินฟลูฯสายคาเฟ่บน YouTube พูดตรงกันว่า แค่เลือกโต๊ะริมหน้าต่างแล้วนั่งดูแม่น้ำ Avon ไหลผ่านไปช้าๆ ก็รู้สึกว่าทริปนี้คุ้มแล้ว

จุดถ่ายรูป + มุมที่มาแล้วห้ามพลาด โดยสายคอนเทนต์ TikTok & YouTube

ทุกมุมของบาธสวยจนแทบไม่ต้องพยายามเลือกมุมกล้อง เพราะแสงธรรมชาติของที่นี่มีโทนอุ่นกว่าลอนดอน และมีความนุ่มแบบโฟมทองที่สะท้อนจากหิน Bath Stone นักรีวิวจาก YouTube ชื่อดังอย่าง Wander with Chloe บอกไว้ว่า บาธคือเมืองที่แสงสวยที่สุดในอังกฤษตอนบ่ายสาม

มุมยอดนิยมที่ทุกคนต้องไปคือ Royal Crescent Viewpoint ที่มองเห็นแนวอาคารครึ่งวงกลมสีทอง, Pulteney Bridge Riverside จุดที่แม่น้ำ Avon สะท้อนภาพสะพานอย่างสมบูรณ์แบบ, Bath Abbey Tower ที่เปิดให้ขึ้นไปชมวิว 360 องศาเหนือเมือง และ Parade Gardens ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ (22 ตุลาคม 2025) [3]

สำหรับสายถ่ายรูป อินฟลูฯแนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือบ่ายแก่ๆ ถึงเย็น เพราะแสงตกกระทบอาคารจะให้เงานุ่มกำลังดี ส่วนช่วงฝนปรอย ฟุตปาธหินจะสะท้อนเงาและให้ภาพแนวโรมานซ์เหมือนในหนังอังกฤษเก่า ถ้าอยากได้ภาพโล่งๆ ไม่มีคน แนะนำมาช่วง 8–9 โมงเช้ากลางสัปดาห์ รับรองได้ภาพที่เหมือนถ่ายในยุคก่อนรถยนต์เกิดแน่นอน

มุมที่ต้องไปให้ได้

Royal Crescent Viewpoint – จุดถ่ายรูปยอดนิยมของอินฟลูฯไทยและต่างชาติ
Pulteney Bridge Riverside – จุดสะท้อนน้ำที่ถ่ายได้ทั้งสะพานและอาคาร
หอคอยของมหาวิหารบาธ – วิวเมือง 360 องศา เห็นทั้งหลังคาเก่าและแม่น้ำ
Parade Gardens – สวนดอกไม้กลางเมือง บรรยากาศเหมือนโปสการ์ด

Tips สำหรับสายถ่ายรูป

แนะนำมาเที่ยวบาธช่วงบ่ายถึงเย็น แสงจะตกกระทบอาคารพอดี
ใช้มือถือถ่ายมุมต่ำ แสงสะท้อนหินจะทำให้ภาพดูนุ่มขึ้น
ถ้าอยากได้รูปไม่มีคน ให้มาเช้า 8.00–9.00 น. โดยเฉพาะวันธรรมดา

สรุป เที่ยว บาธ เมืองที่เที่ยวง่าย สวยทุกฤดู เหมาะทั้งคู่รัก สายถ่ายรูป และคนชอบเมืองอบอุ่น

การ เที่ยว บาธ คือการได้พักใจในเมืองที่ไม่ต้องทำอะไรเยอะ แต่ได้ความสุขครบทุกมิติ ทั้งสถาปัตยกรรม วิวแม่น้ำ ผู้คน และอาหารอร่อย ความเรียบง่ายของเมืองนี้ทำให้มันต่างจากลอนดอนหรือแมนเชสเตอร์ เพราะทุกอย่างถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติและจังหวะชีวิตที่ช้า เมืองนี้ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเร่ง แค่เดินก็รู้สึกว่ากำลังพักผ่อนจริงๆ

บาธเหมาะกับคนที่อยากสัมผัสความโรแมนติกของอังกฤษแบบไม่ต้องขับรถ หรือคนที่อยากควงแฟนมานั่งคาเฟ่ริมแม่น้ำ มองแสงเย็นตกกระทบสะพาน Pulteney ขณะมีนักดนตรีข้างถนนเล่นเพลงเบาๆ อินฟลูฯสายคู่รักรีวิวไว้ว่า บาธคือเมืองที่เหมือนฉากจบของหนังรักดีๆ และยังเหมาะกับสายคอนเทนต์ที่ต้องการภาพแบบธรรมชาติไม่จัดฉาก

ถ้ามีเวลาสองวันหนึ่งคืน จะยิ่งคุ้ม เพราะกลางคืนของบาธสวยไม่แพ้กลางวัน เมื่อไฟวิหารและสะพานสะท้อนบนผิวน้ำ Avon เมืองจะกลายเป็นสีทองทั้งเมือง งบเที่ยวไม่แรง เดินทางง่ายจากลอนดอน ที่พักเยอะและปลอดภัย จึงเหมาะกับทั้งมือใหม่และนักเดินทางที่อยากสัมผัสอังกฤษในโทนอบอุ่นที่สุด