Amaranth Seed หรือ เมล็ดผักโขม ถือเป็นหนึ่งใน Superfood ที่มีประวัติยาวนาน และคุณค่าทางโภชนาการสูง มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่สมัย Aztec civilization และยังคงเป็นที่นิยม ในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ในปัจจุบัน
เมล็ดผักโขมเป็นเมล็ดจากพืชในสกุล Amaranthus มีหลายพันธุ์และสี เช่น แดง, เหลือง, และเขียว ขนาดเล็ก และมีรูปร่างคล้ายเมล็ดพืชอื่นๆ เช่น Quinoa มักใช้ในการทำอาหาร และเป็นแหล่ง ของโปรตีนพืชที่ดีเยี่ยม
เมล็ดผักโขมเป็นหนึ่งในอาหารหลัก ของอารยธรรม Aztec และใช้เป็นส่วนหนึ่ง ของพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ประวัติของ Amaranth สามารถย้อนไปได้หลายพันปี ในอเมริกา และได้รับการค้นพบใหม่ ในฐานะอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงในปัจจุบัน
เมล็ดผักโขม ปลูกได้ในสภาพดิน ที่หลากหลาย และทนต่อภัยแล้งได้ดี เหมาะสำหรับการปลูกในหลายๆ ภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่มีภูมิอากาศอบอุ่น ถึงร้อน ไม่ต้องการดูแลมากนัก และสามารถให้ผลผลิตสูง
ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิต Amaranth seed ใมีการปลูกอย่างแพร่หลาย ในหลายประเทศ รวมถึงเนปาล, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, อเมริกากลาง, เม็กซิโก และแอฟริกาตะวันออก และใต้ ในประเทศอินเดีย การปลูกเมล็ดผักโขม สามารถให้ผลผลิต ประมาณ 4-6 ตันต่อเอเคอร์ [1]
เมล็ดผักโขมโปรตีนสูง มี Amino acids ที่สมบูรณ์ และโปรตีนสูงกว่าเมล็ดพืชอื่นๆ มี Fiber สูง ช่วยในการย่อย และดีต่อสุขภาพ ของระบบทางเดินอาหาร มีแร่ธาตุและวิตามิน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เมล็ดผักโขมปริมาณ 100 กรัม ให้ Energy 102 kilocalories
ที่มา: Amaranth grain [2]
เมล็ดผักโขม สามารถหาซื้อได้ตามร้านธัญพืชนำเข้า ร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพ หรือทาง online มักจำหน่ายในรูปของเมล็ดแห้ง หรือแป้ง ยกตัวอย่างร้านค้าทาง online website Superfoodsociety ที่จำหน่าย เมล็ดผักโขม Organic ปริมาณ 1 กิโลกรัม ราคา 275 บาท [3]
เมล็ดผักโขม สามารถนำมาปรุงเป็นโจ๊ก ใช้เป็นส่วนผสมในขนมอบ หรือโรย Toppings ในสลัดและYoghurt เพื่อเพิ่มโปรตีน และคุณค่าทางโภชนาการในมื้ออาหาร
Amaranth Seed ถือเป็น Superfood ที่มีคุณค่าสูงมาก สามารถนำมาใช้ในการทำอาหารหลากหลาย และช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ให้กับมื้ออาหาร สร้างความแตกต่าง และความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร