Red coral หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เรดคอรัล เป็นหนึ่งในผักสลัดที่โดดเด่น ด้วยใบสีแดงอมม่วง ที่คล้ายกับปะการัง นำเสนอความสวยงาม ไม่เพียงแค่ในจานอาหาร แต่ยังให้คุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย มักใช้เป็นองค์ประกอบหลัก ในสลัดหลายชนิด และเป็นที่นิยมอย่างมาก ในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบอาหารสุขภาพ
เรดคอรัลเติบโตได้ดี ในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิค่อนข้างเย็น และสม่ำเสมอ มักพบการปลูกในเขตเย็นถึงอุ่น เช่น แถบยุโรป และอเมริกาเหนือ ต้องการแสงแดดอ่อนๆ และดินที่มีการระบายน้ำดี เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบที่สวยงาม การผลิตทั่วโลกในปี 2020 อยู่ที่ประมาณ 27.7 ล้านตันและ 12.2 ล้านเฮกตาร์ [1]
เรดคอรัลเป็นผักสลัดชนิดหนึ่ง ของในวงศ์ Asteraceae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับผักกาดหอม และผักชีฝรั่ง ถูกจัดในหมวดหมู่ของผักสลัด มีลักษณะคล้ายกับ Red Oak และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ในการเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะใบของมันที่มีรูปทรงสีสันสวยงาม และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
เรดคอรัล พัฒนามาจากการคัดเลือกพันธุ์ ของผักสลัดยุโรป โดยได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความทนทานต่อโรค และเพิ่มความสวยงามของใบ ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เรดคอรัลได้กลายเป็นที่นิยมในตลาดสลัดทั่วโลก เนื่องจากลักษณะเฉพาะทางสีสัน และรูปทรงที่สะดุดตา
เรดคอรัลมีวิตามิน A และ C สูง นอกจากนี้ ยังมีเส้นใยสูง ซึ่งช่วยในระบบการย่อยอาหาร มีแคลอรีต่ำ และเหมาะสำหรับใช้ในอาหารควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยต่อต้านโรคอีกด้วย จากข้อมูลแหล่งที่ 1 ระบุว่า เรดคอรัลปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 16 Calories
ที่มา: Food database and calorie counter [2]
จากข้อมูลแหล่งที่ 2 ระบุว่า เรดคอรัลปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 13 Calories
ที่มา: FoodData Central [3]
เรดคอรัล เหมาะที่ใช้ในเมนูสลัด เพราะช่วยเพิ่มสีสัน และรสชาติอ่อนๆ ที่ไม่บดบังรสชาติของส่วนผสมอื่น สามารถใช้รับประทานสดๆ หรือจัดเป็นเครื่องเคียง เพื่อเพิ่มความสดใสให้กับจานหลัก นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ในการทำแซนด์วิช หรือเพิ่มเป็นส่วนผสมใน Rap
Red coral เป็นผักสลัดที่มีความสวยงาม และมีประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านโภชนาการ และในการตกแต่งจานอาหาร ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นเหล่านี้ จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มสีสัน และคุณค่าทางโภชนาการในมื้ออาหาร