พริกหวานสีแดง ประโยชน์ ผักที่วิตามินซีสูง

พริกหวานสีแดง

พริกหวานสีแดง (Red Bell Pepper) เป็นผักที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ในครัวทั่วโลก ด้วยรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ สีสันสดใส และรสชาติหวานกรอบ ที่ไม่เผ็ด พริกหวานสีแดงไม่เพียงแต่เพิ่มสีสัน และความน่าสนใจให้กับอาหารต่างๆ แต่ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ที่สำคัญต่อสุขภาพของเรา

พริกหวานสีแดง Capsicum annuum คืออะไร

Bell Pepper สีแดงชื่อวิทยาศาสตร์ Capsicum annuum ตระกูล Solanaceae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับ Tomato และ Potato เป็นพืชผักที่มีรูปร่าง คล้ายกับระฆัง และมีรสชาติหวานกรอบ ไม่เผ็ดเหมือนพริกชนิดอื่นๆ พริกหวานสีแดงเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับมะเขือเทศ มันฝรั่ง พริกหวานมีสีสันสดใส โดยเฉพาะสีแดง ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก

พริกหวานสีแดงเป็นพืชผัก ที่ได้รับความนิยมในครัวทั่วโลก เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และสามารถหาซื้อได้ง่ายทั่วไปตามตลาด หรือร้านค้าออนไลน์ เช่น พริกหวานแดงจากโครงการหลวงปริมาณ 150 g. ราคา 35 บาท ต่อ 1 pack [1]

พริกหวาน สีแดง ลักษณะของพริกหวานสีแดง

พริกหวานสีแดงมีลักษณะ ที่เป็นเอกลักษณ์ และโดดเด่น ซึ่งสามารถระบุได้ง่าย จากรูปลักษณ์ และรสชาติ ดังนี้

  • รูปร่าง: พริกหวานสีแดงมีรูปร่างคล้ายกระเปาะ หรือระฆัง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Bell Pepper” ผิวด้านนอกเรียบเนียน และเป็นมันเงา
  • ขนาด: พริกหวานสีแดงมีขนาดที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดกลางถึงใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 3-4 นิ้ว
    สี: เมื่อพริกหวานสีแดงสุกเต็มที่ จะมีสีแดงสดใส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ว่าสุกเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีพริกหวานที่มีสีอื่นๆ เช่น เขียว เหลือง และส้ม
  • เนื้อ: เนื้อภายในของพริกหวานสีแดง มีความหนา และกรอบ เมล็ดข้างในมีสีขาว และเรียงตัวอยู่ในแกนกลาง
  • รสชาติ: พริกหวานสีแดงมีรสชาติหวานกรอบ ไม่มีความเผ็ด เหมือนพริกชนิดอื่นๆ ทำให้เป็นที่นิยม ในการปรุงอาหาร และใช้ในเมนูต่างๆ
  • กลิ่น: พริกหวานสีแดงมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ฉุนหรือรุนแรง

พริกหวาน สีแดง ประโยชน์ดีต่อสุขภาพ ในด้านต่างๆ

  • วิตามินซีสูง: พริกหวานสีแดงเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก จากอาหารอื่นๆ
  • วิตามินเอ: พริกหวานสีแดงมี Beta carotene ซึ่งเป็นสารประกอบ ที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็น
    Vitamin A ได้วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา และผิวพรรณ
  • ไฟเบอร์: พริกหวานสีแดงมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร และลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • แคลอรีต่ำ: พริกหวานสีแดงมีแคลอรีต่ำ ทำให้เป็นอาหารที่เหมาะ สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: พริกหวานสีแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ

พริกหวานสีแดง ข้อมูลสารอาหารของพริกหวานสีแดง

พริกหวานสีแดงเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยมีสารอาหารสำคัญ ต่อปริมาณ 110 g. ดังนี้

  • Calorie 31 kilocalories
  • Carbohydrates 6.65 g.
  • Protein 0.9 g.
  • Fat 0.13 g.
  • Potassium 213 mg.
  • Vitamin C 142 mg.
  • Phosphorus 27 mg.
  • Magnesium 11 mg.
  • Calcium 6 mg.

ที่มา: Bell Pepper (พริกหวาน) [2]

 

พริกหวานสีแดง ประโยชน์ของวิตามินซีในพริกหวานสีแดง

พริกหวานสีแดงมีประโยชน์วิตามินซีสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้าง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันหวัด และช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก นอกจากนี้ยังมี Beta carotene สูงที่ช่วยบำรุงสายตา และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือด และมะเร็ง วิตามินซีในพริกหวานสีแดง ยังมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณแข็งแรง และยืดหยุ่น [3]

พริกหวานสีแดง การใช้พริกหวานสีแดงในอาหาร

พริกหวานสีแดง
  • สลัด: พริกหวานสีแดงสามารถใช้เป็นส่วนประกอบในสลัด เพื่อเพิ่มสีสัน และความกรอบ
  • ผัด: พริกหวานสีแดงสามารถนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ หรือผักอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ
  • ย่าง: การย่างพริกหวานสีแดง ทำให้มีรสชาติหวานยิ่งขึ้น สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องเคียง หรือใส่ใน
    Sandwich
  • ซุป: พริกหวานสีแดงสามารถนำมาใส่ในซุป เพื่อเพิ่มความหวาน และคุณค่าทางโภชนาการ
  • Dip: สามารถทำ Dip จากพริกหวานสีแดง ผสมกับเครื่องเทศและ yoghurt เพื่อเป็นเครื่องเคียง สำหรับทานกับขนมปัง หรือผักสด

สรุป พริกหวานสีแดง สีสันที่สวยงาม มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

พริกหวานสีแดงไม่เพียงแค่มีสีสันที่สวยงาม แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และสามารถนำมาใช้ในการปรุงอาหาร ได้หลากหลายรูปแบบ หากกำลังมองหาผักที่มีรสชาติอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง พริกหวานสีแดง เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

188