กีวีเบอร์รี หรือ Hardy kiwi เป็นผลไม้ผลเล็กๆ ที่มีรสชาติหวานอร่อย และมีประโยชน์ ต่อสุขภาพมากมาย แม้ว่ากีวีเบอร์รี จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ในประเทศไทย แต่ก็เริ่มนิยมมากขึ้น ในกลุ่มคนรักสุขภาพ เนื่องจากคุณสมบัติที่น่าสนใจ และคุณค่าทางโภชนาการสูง ในบทความนี้ จะพาไปรู้จักกับกีวีเบอร์รีให้มากขึ้น
กีวีเบอร์รีเป็นพืชในตระกูล Actinidiaceae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกันกับ Kiwi (Actinidia deliciosa) ที่เราคุ้นเคย แต่กีวีเบอร์รีมีขนาดเล็กกว่า เปลือกบาง เนื้อนุ่ม รสชาติหวานอมเปรี้ยวเมื่อสุก และจะหวานฉ่ำมาก เมื่อสุกจัด สามารถทานได้ทั้งเปลือก มีกลิ่นหอมคล้ายกีวี เมื่อผ่าครึ่ง จะมีลักษณะเหมือนกีวีปกติ
พืชในตระกูลนี้ ยังมีหลายชนิด เช่น Actinidia arguta, Actinidia kolomikta ซึ่งมีความทนทาน ต่อสภาพอากาศหนาวเย็น
กีวีเบอร์รีสามารถปลูกได้ ในเขตที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น ถึงอบอุ่น มักพบในประเทศแถบยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย การปลูกกีวีเบอร์รี ต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดี และมีแสงแดดเพียงพอ ระยะเวลาเก็บเกี่ยว มักอยู่ในช่วงปลายฤดูร้อน ถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง โดยจะต้องดูแล เรื่องการตัดแต่งกิ่ง และการป้องกันโรคพืช
กีวีเบอร์รีมีต้นกำเนิดมาจาก แถบเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ต่อมาได้ถูกนำเข้ามาปลูกในยุโรป และอเมริกาเหนือ เนื่องจากความทนทาน ต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็น และรสชาติที่อร่อย
Hardy kiwi มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา และระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง
แหล่งข้อมูลที่ 1 ระบุว่า กีวีเบอร์รีปริมาณ 125 grams มีสารอาหารดังนี้
ที่มา: Kiwi Berry [1]
แหล่งข้อมูลที่ 2 ระบุว่า กีวีเบอร์รีปริมาณ 75 grams มีสารอาหารดังนี้
ที่มา: Calories in Kiwi Berries [2]
Hardy kiwi สามารถหาซื้อได้ที่ Supermarket ที่มีสินค้านำเข้า ร้านค้า online ที่จำหน่ายผลไม้สดนำเข้า รวมถึงตลาดนัดเกษตรกรบางแห่ง ที่มีการปลูกกีวีเบอร์รีในประเทศ ตัวอย่างร้านค้า online ที่จำหน่ายกีวีเบอร์รีสด
กีวีเบอร์รีสามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก เนื่องจากเปลือกบาง และไม่มีขน เหมือนกีวีทั่วไป สามารถนำมารับประทานสดๆ หรือใช้ในการทำสลัด ผลไม้แห้ง หรือเพิ่มลงในขนมหวานต่าง ๆ เช่น Yogurt, smoothie หรือ cake นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำผล ไม้หรือแยมได้อีกด้วย
กีวีเบอร์รีเป็นผลไม้ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แม้จะมีต้นกำเนิดจากแถบเอเชีย แต่ก็สามารถปลูกได้ ในหลายประเทศทั่วโลก การรับประทานกีวีเบอร์รี ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความอร่อย ให้กับเมนูอาหาร แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีอีกด้วย