มันฝรั่งห้ามกินดิบ เพราะอะไร เรามีคำตอบ มันฝรั่งเป็นหนึ่งในพืชอาหาร ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่มีข้อควรระวังสำคัญ นั่นคือการกินมันฝรั่งดิบ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเหตุผล ที่ทำให้มันฝรั่งดิบห้ามบริโภค เพื่อให้ได้รับประโยชน์ ทางโภชนาการอย่างเต็มที่
มันฝรั่งถูกนำเข้าสู่ยุโรปครั้งแรก ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 โดยนักสำรวจชาวสเปน หลังจากนั้น มันฝรั่งได้แพร่หลายไปยังส่วนต่างๆ ของยุโรป และกลายเป็นอาหารหลัก ในหลายประเทศ ต่อมา มันฝรั่งได้ถูกนำไปปลูกในทวีปเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาเหนือ จนกลายเป็นพืชอาหาร ที่ปลูกกันทั่วโลก
มันฝรั่งเป็นพืช ที่มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งในด้านโภชนาการ และสุขภาพ ประโยชน์ของมันฝรั่งมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ แหล่งของวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยในการป้องกันโรค และส่งเสริมสุขภาพ แต่ไม่ควรกินดิบเช่นเดียวกับ หน่อไม้ห้ามกินดิบ และ มะเขือเทศควรกินสุก
มันฝรั่งเป็นแหล่ง ของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งเป็นพลังงานหลัก ที่ร่างกายใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในมันฝรั่ง ยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ทำให้มีพลังงาน ที่เสถียรต่อเนื่อง และไม่ทำให้เกิดอาการหิวบ่อย นอกจากนี้ มันฝรั่งยังมีไฟเบอร์ ที่ช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร
มันฝรั่งปริมาณ 100 กรัม หรือ มีพลังงาน 87 kilocalories และสารอาหารอื่นๆ ดังนี้
ที่มา: มันฝรั่ง สารอาหาร ประโยชน์ [1]
มันฝรั่งสามารถปลูกได้ ในหลายสภาพภูมิอากาศ และสภาพดิน โดยมีขั้นตอนการปลูกที่สำคัญ ดังนี้
Potato ห้ามกินดิบ เนื่องจากมีสารโซลานีน และ Chaconine ซึ่งเป็นสารพิษ ที่พบในพืชตระกูล Solanaceae สารเหล่านี้ มีหน้าที่ป้องกันศัตรูพืช แต่มีพิษต่อมนุษย์ เมื่อบริโภคในปริมาณที่สูง มีผลต่อระบบประสาท และระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย หัวใจเต้นผิดจังหวะ หมดสติ หรือเสียชีวิตได้
การเป็นพิษจาก Solanine เกิดขึ้นเมื่อมีการบริโภคสาร Solanine ที่มีอยู่ในมันฝรั่งดิบ หรือมันฝรั่งที่มีสีเขียวมากเกินไป อาการจะปรากฏขึ้น ตามความรุนแรงของการบริโภค และความไวของบุคคล ต่อสารพิษ โดยทั่วไปอาการจะปรากฏภายใน 2-24 ชั่วโมงหลังทาน หากได้รับปริมาณมาก อาจแสดงอาการภายใน 30 นาที [2]
โซลานีน
โซลานีนและ Chaconine เป็นสาร Glycoalkaloids ที่พบในพืชตระกูล Solanum เช่น มันฝรั่ง มะเขือเทศ และมะเขือยาว สารเหล่านี้ ทำหน้าที่เป็นกลไกป้องกัน ตามธรรมชาติของพืช ต่อแมลงและเชื้อรา ในมันฝรั่ง 100 กรัม มีปริมาณของโซลานีน ประมาณ 0.14 ถึง 0.76 mg. และ Chaconine ประมาณ 0.11 ถึง 2.00 mg.
การบริโภคโซลานีน และ Chaconine ในปริมาณมาก สามารถทำให้เกิดอาการพิษ เช่นคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง และอาการทางระบบประสาท เช่น ปวดหัว เวียนศีรษะ ปริมาณที่ทำให้เกิดอาการพิษ อยู่ที่ประมาณ 2-5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม [3]
การบริโภคมันฝรั่ง แม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการ ที่ควรพิจารณาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
มันฝรั่งห้ามกินดิบ มันฝรั่งเป็นพืชอาหาร ที่มีความสำคัญ และมีประโยชน์ ทางโภชนาการมากมาย แต่การบริโภคมันฝรั่งดิบไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีสารโซลานีน ที่เป็นพิษต่อร่างกาย การปรุงสุกมันฝรั่งก่อนการบริโภคเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการลดสารพิษเหล่านี้ และทำให้มันฝรั่งมีความอร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น