เคลสีม่วง หนึ่งในพืชที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูง และสีสันที่สวยงาม ทำให้เคลสีม่วงไม่เพียงแต่ เป็นที่โปรดปราน ในหมู่นักโภชนาการ และผู้รักสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบ ในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบ การทำอาหาร เพื่อเพิ่มความสวยงาม ให้กับจานอาหาร
เคลสีม่วงหรือ Purple Kale เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ ของผักเคล ที่มีลักษณะเด่น คือใบหยัก และมีสีม่วงสดใส เนื่องจาก มีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เคลสีม่วงมีวิตามิน และแร่ธาตุสูง เช่น วิตามิน A, C, K และแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน กระดูก และการทำงานของหัวใจ
เคลสีม่วงมีหลากหลายสายพันธุ์เช่น Curly-Kale มีสีตั้งแต่เขียวเข้ม น้ำเงินไปจนถึงแดงอมม่วง Ornamental-Kale มีสีเขียว ชมพู ม่วง แดง Red Russian-Kale ใบเขียวแซมสีแดง ลำต้นสีแดง Redbor-Kale ใบและก้านสีแดงอมม่วง นิยมรับประทานสด
เคลสีม่วง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยมีพลังงาน 35 กิโลแคลอรี และสารอาหารสำคัญ ต่อ 100 กรัม ดังนี้
ที่มา: [1]
เคลสีม่วงมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ให้สีม่วงแดง กับผักและผลไม้ต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว เคลสีม่วงมีปริมาณแอนโทไซยานิน อยู่ในช่วงประมาณ 50-150 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม [2]
การเพาะปลูกเคลสีม่วง ต้องการแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ดินควรมีการระบายน้ำดี และมีสารอาหารสมบูรณ์ โดยเตรียมดินลึกประมาณ 12-16 นิ้วและเพิ่มปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ปลูกเมล็ดลึกประมาณ 1/2 นิ้ว ห่างกัน 12-18 นิ้ว รดน้ำให้ดินชุ่มลึกแต่ไม่แฉะ และใส่ปุ๋ยอินทรีย์ทุกเดือน เก็บเกี่ยวใบเคลเมื่อมีขนาด 8-10 นิ้ว โดยเริ่มจากใบด้านนอกก่อน [3]
เคลสีม่วงไม่เพียงแต่มีสีสันที่สวยงาม แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง การเพิ่มเคลสีม่วงในอาหารประจำวัน สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพ และเพิ่มความสวยงาม ให้กับจานอาหารของคุณ ลองหาซื้อเคลสีม่วง มาบริโภค และเพลิดเพลิน กับประโยชน์