Radish แรดิช ราคา ซื้อที่ไหน

Radish

Radish หรือ แรดิช เป็นผักหัว ที่มีลักษณะโดดเด่น และรสชาติเฉพาะตัว ที่ให้ความกรอบ และรสเผ็ดเล็กน้อย ซึ่งทำให้เป็นที่ชื่นชอบในทั่วโลก ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่าน ไปสำรวจทุกด้านของแรดิช ตั้งแต่ที่มา การเพาะปลูก ไปจนถึงวิธีการนำมาใช้ในการประกอบอาหาร

Radish การเพาะปลูก ปริมาณการผลิตทั่วโลก

แรดิช สามารถปลูกได้ง่าย และเติบโตเร็ว โดยมักปลูกในดินร่วนซุย ที่มีการระบายน้ำดี มักปลูกในอากาศที่เย็น และใช้เวลาจากการปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยวเพียง 3-4 สัปดาห์ สามารถปลูกได้ทั้งในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง ในแถบอากาศหนาว และปลูกได้ตลอดทั้งปี ในพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่น

ปริมาณการผลิตแรดิช ทั่วโลกประมาณ 7 ล้านตันต่อปี ซึ่งคิดเป็นประมาณ 2% ของการผลิตทั้งหมดของโลก ประเทศที่ผลิตแรดิชปริมาณมาก ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, และ เกาหลีใต้ แรดิชเป็นผักที่มีความสำคัญ ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออก [1]

Radish ผักหัวในตระกูล Cruciferae คืออะไร

แรดิช เป็นผักหัวในตระกูล Cruciferae ซึ่งเป็นตระกูลเดียว กับกะหล่ำปลี และ broccoli มีหลายสายพันธุ์ ที่มีขนาด สี และรูปร่างที่แตกต่างกัน จากขนาดเล็กสีแดงไปจนถึงขนาด ใหญ่สีขาว ส่วนใหญ่มักพบลักษณะลูกทรงกลมเล็ก เปลือกนอกสีแดง เนื้อด้านในสีขาว

Radish ที่มา ถิ่นกำเนิดในตะวันออกไกล

แรดิช มีถิ่นกำเนิดในตะวันออกไกล โดยมีหลักฐานการใช้แรดิช ในอียิปต์โบราณก่อนปี 2700 ปีก่อนคริสตกาล และได้แพร่กระจายไปยังยุโรป และอเมริกา ตามการเดินทางของพ่อค้า และนักสำรวจ

Radish ประโยชน์ ช่วยย่อยอาหาร เป็นยาระบายเบาๆ

Radish

แรดิช อุดมไปด้วยวิตามิน C, โพแทสเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ ช่วยในการย่อยอาหาร และมีฤทธิ์เป็นยาระบายเบาๆ การรับประทานแรดิช ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด แหล่งข้อมูลที่ 1 ระบุว่า แรดิชปริมาณ 1 ถ้วย หรือ 116 กรัม มี 19 Calories

  • Carbohydrates 3.9 g
  • Fat 0.1 g
  • Fiber 1.9 g
  • Protein 0.8 g
  • Sodium 45 mg
  • Sugar 2.2 g

ที่มา: Radish [2]

 

แหล่งข้อมูลที่ 2 ระบุว่า แรดิชปริมาณ 1 ถ้วย หรือ 116 กรัม มี 19 Calories

  • Calcium 3 %
  • Dietary fiber 1.6 g 7%
  • Iron 2 %
  • Magnesium 3 %
  • Niacin 1 %
  • Phosphorus 2 %
  • Potassium 233 mg 7%
  • Protein 0.7 g 2%
  • Riboplavin 2%
  • Sodium 39 mg 2%
  • Sugar 1.9 g
  • Sync 2 %
  • Thiamin 1 %
  • Total carbohydrates 3.4 g 2%
  • Total fat 0.1 g 1%
  • Vitamin B 1 20 %
  • Vitamin B 64 %
  • Vitamin C 25 %
  • Vitamin K 2 %

ที่มา: พลังงานและสารอาหารจาก Radishes [3]

 

ข้อมูลทั้งสองแหล่ง มีความตรงกันค่อนข้างสูง เมื่อเทียบค่าสารอาหารหลักๆ แต่แหล่งที่ 2 ให้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากกว่า เกี่ยวกับวิตามิน และแร่ธาตุ ที่พบในแรดิช ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้เข้าใจ คุณค่าทางโภชนาการ ของแรดิชได้ดียิ่งขึ้น

Radish หาซื้อได้ที่ไหน ตัวอย่างราคาทางออนไลน์

แรดิช มีจำหน่ายใน Supermarket ส่วนใหญ่ ตลาดสด และร้านขายผักสดทั่วไป มักพบได้ในรูปแบบสดสำหรับการบริโภคเป็นผักสด หรือใช้ในการปรุงอาหาร ยกตัวอย่างราคาขายแรดิช ช่องทางออนไลน์ บนเว็บไซต์

  • เรดิชจากโครงการหลวง ปริมาณ 200 g. ราคา 28 บาท [4]
  • แรดิชสีแดง คัดสด และทำการตัดแต่งแล้วปริมาณ 500 g. ราคา 71 บาท [5]

Radish ข้อแนะนำในการนำมารับประทาน

  • รับประทานสด หั่นเป็นแว่นบางๆ เพื่อใช้ในสลัด หรือเป็นส่วนประกอบของแซนด์วิช
  • ดองแรดิชกับน้ำส้มสายชู และผักอื่นๆ เช่นหัวหอม Carrot เครื่องเทศ เพื่อใช้เป็นเครื่องเคียง
  • นำมาทำเป็นส่วนประกอบ ของซุป หรือยำในอาหารจีน และเกาหลี

สรุป Radish ผักหัวเพิ่มสีสัน และรสชาติให้กับอาหาร

Radish

แรดิช ไม่เพียงแต่เพิ่มสีสัน และรสชาติให้กับอาหาร แต่ยังมีประโยชน์มากมาย ที่ช่วยในการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น ทั้งยังง่ายต่อการเพาะปลูก และการเตรียมอาหาร ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับการเพิ่มความหลากหลายในมื้ออาหาร

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

383