เมล็ดฟักทอง มีโอเมก้า เมล็ดฟักทองเป็นหนึ่งในอาหาร ที่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก ในด้านคุณประโยชน์ทางโภชนาการ นอกจากจะเป็นแหล่งของวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่นแมกนีเซียม สังกะสี และเหล็ก เมล็ดฟักทองยังมีกรดไขมันโอเมก้า ซึ่งเป็นไขมันดี ที่มีความสำคัญต่อสุขภาพหลายประการ
เมล็ดฟักทอง เป็นเมล็ดที่ได้จากผลฟักทอง (Cucurbita) มีชื่อเรียกทั่วไปว่า “pepita” ในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปเมล็ดฟักทอง มีลักษณะเป็นเมล็ดแบนขนาดเล็ก มีสีเขียวเข้ม มักจะมีเปลือกสีขาว หรือสีเหลืองอ่อนหุ้มอยู่ภายนอก เมล็ดฟักทองมีโปรตีนสูง และมีกรดไขมันดี ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
เมล็ดฟักทองซึ่งสามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบ คั่ว หรืออบ และยังเป็นส่วนประกอบที่นิยม ใช้ในอาหารหลากหลายชนิด มีประโยชน์ด้านสุขภาพที่ เช่นการลดระดับคอเลสเตอรอล การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และการปรับปรุงสุขภาพหัวใจ [1]
ที่มา: 4 ประโยชน์ดีๆ จากเมล็ดฟักทอง [2]
เมล็ดฟักทอง ในปริมาณ 100 กรัม มีสารอาหาร ดังนี้
ที่มา: Seeds, pumpkin [3]
กรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 เป็นสารอาหารสำคัญ ที่ร่างกายต้องการ เพื่อการทำงานที่เป็นปกติของระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบประสาทและหัวใจ เมล็ดฟักทองมีกรดไขมันโอเมก้า-6 ในปริมาณที่สูง ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า-3
โดยในปริมาณ 100 กรัมของเมล็ดฟักทอง จะมีโอเมก้า-6 ประมาณ 20.71 กรัม และโอเมก้า-3 ประมาณ 0.12 กรัม กรดไขมันโอเมก้า-6 ที่พบในเมล็ดฟักทองเป็นกรดไลโนเลอิก (LA) ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพหัวใจและการลดระดับคอเลสเตอรอล ส่วนโอเมก้า-3 ที่พบเป็นกรดอัลฟา-ไลโนเลนิก (ALA) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
เมล็ดฟักทองมีรสชาติที่ละเอียดอ่อน มักจะมีรสชาติที่หวานเบาๆ และมีความมันเล็กน้อย เมื่อคั่วหรืออบ เมล็ดฟักทองจะมีรสชาติที่เข้มข้นขึ้น และมีกลิ่นหอมกรุ่น รสสัมผัสจะกรอบ และเคี้ยวเพลิน เมล็ดฟักทองสามารถบริโภคได้หลายวิธี เช่นรับประทานเป็นของว่าง, ใส่ในสลัด, หรือใช้เป็นส่วนผสมในเบเกอรี่ต่างๆ
เมล็ดฟักทองเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า ที่มีความสำคัญต่อสุขภาพหัวใจและสมอง การบริโภคเมล็ดฟักทองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากโอเมก้า และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน