ผักสีม่วง คุณค่าโภชนาการ Anthocyanins

ผักสีม่วง

ผักสีม่วง เป็นหนึ่งในกลุ่มของผัก ที่มีความสวยงาม และเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ที่หลากหลาย สีม่วงของผักเกิดจากสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับผักสีม่วง หลากหลายชนิด พร้อมทั้งประโยชน์ต่อสุขภาพ

ผักสีม่วง ตัวอย่างและประโยชน์ต่อสุขภาพ

ผักสีม่วง
  • กะหล่ำปลีม่วง (Purple Cabbage) ประโยชน์ สารต้านอนุมูลอิสระสูง กะหล่ำปลีม่วงมีสารแอนโทไซยานิน ที่ช่วยป้องกันการอักเสบ และการเกิดโรคหัวใจ มีวิตามิน C สูงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส และป้องกันการเกิดริ้วรอย
  • มันม่วงประโยชน์ (Purple Sweet Potato) ประโยชน์มีพลังงานสูง มันม่วงเป็นแหล่งพลังงานที่ดี จากคาร์โบไฮเดรต ทำให้เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการพลังงาน บำรุงสายตา มีวิตามิน A และเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยในการบำรุงสายตา ช่วยย่อยอาหาร มีไฟเบอร์สูง ช่วยในการย่อยอาหาร และการขับถ่ายที่ดี
  • แครอทสีม่วง (Purple Carrot) ประโยชน์ลดการอักเสบ แครอทสีม่วงมีสารแอนโทไซยานิน และฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยลดการอักเสบ ในร่างกาย เบต้าแคโรทีนในแครอทสีม่วง ช่วยในการบำรุงสายตา สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดคราบไขมัน ในหลอดเลือด ลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • เคลสีม่วง ประโยชน์สารอาหารครบถ้วน เคลสีม่วงมีวิตามิน A, C, K และแคลเซียมสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูก และระบบภูมิคุ้มกัน ดีต่อระบบย่อยอาหาร มีไฟเบอร์สูง ช่วยในการย่อยอาหาร และการขับถ่าย ช่วยล้างสารพิษ สารต้านอนุมูลอิสระในเคล ช่วยในการล้างสารพิษ ออกจากร่างกาย

ผักสีม่วง ประโยชน์โดยรวมต่อสุขภาพจากผักสีม่วง

  • ป้องกันโรคหัวใจ สารแอนโทไซยานิน ในผักสีม่วง มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ และป้องกันการเกิดคราบไขมัน ในหลอดเลือด ส่งผลให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • ต้านการอักเสบ สารฟลาโวนอยด์ในผักสีม่วง มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ทำให้ลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ผักสีม่วงมีวิตามิน C สูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงและต้านทานโรคได้ดีขึ้น
  • ป้องกันมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระในผักสีม่วง ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ ลดความเสี่ยง ต่อการเกิดมะเร็ง

ผักสีม่วง และสาร Anthocyanins คืออะไร

แอนโทไซยานิน (Anthocyanins) เป็นสารประกอบธรรมชาติ ที่อยู่ในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง พบได้ในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะในผลไม้ และผักที่มีสีม่วง สีแดง และสีน้ำเงิน เช่น Blueberry, cherry, strawberry กะหล่ำปลีม่วง มันม่วง และแครอทสีม่วง

องค์การอาหาร และการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดปริมาณ การบริโภคแอนโทไซยานิน ที่ยอมรับได้ที่ 2.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน [1]

ผักสีม่วง คุณสมบัติประโยชน์ของแอนโทไซยานิน

  • สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant): แอนโทไซยานินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน
  • ลดการอักเสบ (Anti-inflammatory): แอนโทไซยานินมีคุณสมบัติ ลดการอักเสบ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรค ที่เกี่ยวกับการอักเสบ เช่นโรคข้ออักเสบ และโรคลำไส้อักเสบ
  • บำรุงสุขภาพหัวใจ (Cardiovascular Health): การบริโภคแอนโทไซยานิน ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคหัวใจ โดยช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) รวมถึงช่วยลดความดันโลหิต
  • บำรุงสายตา (Eye Health): แอนโทไซยานินช่วยเสริมสร้างสุขภาพ ของสายตา โดยช่วยป้องกันการเกิดโรค ที่เกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของตา เช่นต้อกระจก และโรคตาจากการใช้สายตามากเกินไป
  • ปรับปรุงการทำงานของสมอง (Cognitive Function): การบริโภคแอนโทไซยานิน ช่วยในการปรับปรุงการทำงาน ของสมองและความจำ โดยช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคสมองเสื่อม และโรคอัลไซเมอร์

ที่มา: อาหารหลากสี มีประโยชน์หลากหลาย [2]

ผักสีม่วงและผลไม้ ที่มีแอนโทไซยานินสูง

ผักสีม่วง และผลไม้ที่มีแอนโทไซยานินสูงที่สุด 10 อันดับ และปริมาณแอนโทไซยานิน

  • Chokeberry: 2,147 mg/100 grams
  • Elderberry: 1,993 mg/100-gram
  • Purple corn: 1,642 mg/100-grams
  • Eggplant: 750 mg/100 g.
  • Black raspberry: 845 mg/100-gram
  • Blackcurrant: 533 mg/100 gram
  • Blueberries: 529 mg/100 g.
  • Marian Berry: 433 mg/100 gram
  • Blackberries: 353 mg/100 grams
  • Purple grape: 192 mg/100 gram

ที่มา: แอนโทไซยานิน [3]

ผักสีม่วง วิธีการบริโภคผักสีม่วง

  • สลัดผักสีม่วง: ผสมผักสีม่วงในสลัด เพื่อเพิ่มสีสัน และคุณค่าทางโภชนาการ
  • ผัดผักสีม่วง: ผัดผักสีม่วงกับน้ำมันมะกอก และกระเทียม เพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณประโยชน์
  • น้ำผักสีม่วง: ปั่นผักสีม่วงผสมกับผลไม้ เป็นน้ำผลไม้เพื่อรับประทาน ในรูปแบบที่สดชื่น และง่ายต่อการย่อย

สรุป ผักสีม่วง บริโภคประจำ เสริมสร้างสุขภาพดี

ผักสีม่วงเป็นแหล่งของสารอาหารที่สำคัญ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ หลากหลายประการ การบริโภคผักสีม่วงเป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ดังนั้น ควรนำผักสีม่วง มารวมในเมนูอาหารประจำวัน เพื่อประโยชน์สูงสุด

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

150