อาหารเสริม ที่ดูแลสุขภาพหัวใจและสายตา

อาหารเสริม

อาหารเสริม เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สำคัญ ในการดูแลสุขภาพ ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงหัวใจ การบำรุงสายตา หรือการบำรุงร่างกาย การสนับสนุนการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อาหารเสริมช่วยเติมเต็มสารอาหาร ที่ร่างกายอาจขาดหายไป จากการรับประทานอาหารประจำวัน

อาหารเสริม การทาน Food Supplement

อาหารเสริมรวมถึงวิตามิน แร่ธาตุ สมุนไพร กรดอะมิโน และเอนไซม์ มีบทบาทสำคัญในการเติมเต็มสารอาหาร ที่อาจขาดหาย จากการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสารอาหารเฉพาะ อย่างเช่นแคลเซียม และวิตามินดี ที่มีประโยชน์ต่อกระดูก และกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ

อย่างไรก็ตาม การใช้อาหารเสริมที่ไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่นคลื่นไส้ ปวดศีรษะ หรือผลกระทบรุนแรง หากรับประทานในปริมาณสูงเกินไป นอกจากนี้ อาหารเสริมอาจมีปฏิกิริยากับยา ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง หรือเกิดอันตราย จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้อาหารเสริม [1]

อาหารเสริม บำรุงหัวใจ 9 ชนิด

อาหารเสริม

อาหารเสริมบำรุงหัวใจ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพหัวใจ มักประกอบด้วยสารอาหาร ที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของหัวใจ และหลอดเลือด ดังนี้

  1. โคเอนไซม์คิวเทน (CoQ10): ช่วยเพิ่มพลังงานในเซลล์หัวใจ และลดการเกิดออกซิเดชัน
  2. ไนอะซิน (Niacin): ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL)
  3. โพลิโคซานอล (Policosanol): ช่วยลดคอเลสเตอรอล และส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด
  4. วิตามินดี (Vitamin D): ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด และสนับสนุนสุขภาพหัวใจ
  5. พิกโนจีนอล (Pycnogenol): ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมการไหลเวียนของเลือด
  6. เรสเวอราทรอล (Resveratrol): ป้องกันการเกิดออกซิเดชันในหลอดเลือด
  7. สารสกัดทับทิม (Pomegranate Extract): ลดการอักเสบ และส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด
  8. สารสกัดชาเขียว (Green Tea Extract): ช่วยลดคอเลสเตอรอล และสนับสนุนสุขภาพหลอดเลือด
  9. เคอร์คูมิน (Curcumin): ต้านการอักเสบ และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

อาหารเสริม ในการบำรุงสายตา 8 ชนิด

อาหารเสริมบำรุงสายตา อาหารเสริมเพื่อสุขภาพสายตามักประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารที่ช่วยบำรุงเนื้อเยื่อตา ดังนี้

  1. ลูทีน (Lutein) ช่วยกรองแสงสีน้ำเงิน ช่วยลดความเสี่ยงโรคตาเสื่อมและต้อกระจก ปกป้องการมองเห็น และรักษาความคมชัดของภาพ
  2. ซีแซนทีน (Zeaxanthin) ช่วยปกป้องเรตินา ลดความเสี่ยงของโรคตาเสื่อมตามวัย และป้องกันการทำลายเซลล์ในดวงตา
  3. สารสกัดบิลเบอร์รี (Bilberry Extract) เพิ่มความคมชัดในการมองเห็น และช่วยลดอาการตาล้า
  4. วิตามินเอ (Vitamin A) บำรุงสุขภาพของเรตินา และป้องกันการตาบอดกลางคืน
  5. แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ช่วยลดการอักเสบของดวงตา และปกป้องเซลล์จากการเกิดออกซิเดชัน
  6. เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) สนับสนุนสุขภาพของตา และระบบภูมิคุ้มกัน
  7. วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยบำรุงเส้นเลือดฝอยในดวงตา และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก
  8. สารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) ต้านอนุมูลอิสระ และส่งเสริมสุขภาพหลอดเลือดในดวงตา

อาหารเสริม เคล็ดลับดูแลสุขภาพโดยรวม

ในโลกปัจจุบัน เรามักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ แต่การปรับปรุงสุขภาพไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในพริบตา รู้หรือไม่ว่า 80% ของโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน สามารถป้องกันได้โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ ในชีวิตประจำวัน

  • รักษาค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม การรักษา BMI ในช่วง 18.5 ถึง 24.9 ไม่เพียงช่วยให้ดูดี แต่ยังลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่นโรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง โรคนิ่ว โรคเบาหวาน และโรคเรื้อรังอื่นๆ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาสูบ มากกว่า 200 ล้านคนในอเมริกา เลือกใช้ชีวิตแบบปลอดควัน หากไม่ใช้ยาสูบ ควรหลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่มือสอง ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง หากกำลังใช้ยาสูบอยู่ แนะนำให้เริ่มคิดถึงการเลิกสูบ เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
  • เพิ่มการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน ประมาณ 60% ของผู้ใหญ่ในอเมริกา ไม่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ การออกกำลังกายระดับปานกลาง 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรังหลายประการ เช่นโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด และมะเร็งบางชนิด
  • รับประทานผัก และผลไม้ให้มากขึ้น การรับประทานผักและผลไม้ อย่างน้อย 5 หน่วยบริโภคต่อวันช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง และอาจช่วยให้ฟื้นฟู จากภาวะบางอย่างได้ด้วย
  • นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการป้องกันโรคเรื้อรัง การนอนที่ดี ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน ภาวะซึมเศร้า และมะเร็ง

ที่มา: Wellness 101 – How to Improve Your Overall Health [2]

 

อาหารเสริม ปริมาณที่แนะนำต่อวันชนิดต่างๆ

  • โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) 100-200 มิลลิกรัม
  • ไนอะซิน (Niacin) 14-16 มิลลิกรัมสำหรับทั่วไป ในบางกรณีอาจใช้สูงถึง 500-1,000 มิลลิกรัมภายใต้คำแนะนำจากแพทย์
  • โพลิโคซานอล (Policosanol) 10-20 มิลลิกรัม
  • วิตามินดี (Vitamin D) 600-800 IU อาจเพิ่มได้ถึง 2,000 IU ขึ้นอยู่กับระดับวิตามินดีในเลือด
  • พิกโนจีนอล (Pycnogenol) 50-100 มิลลิกรัมต่อวัน
  • เรสเวอราทรอล (Resveratrol) 100-250 มิลลิกรัมต่อวัน
  • สารสกัดทับทิม (Pomegranate Extract) 500 มิลลิกรัมต่อหนึ่งวัน
  • สารสกัดชาเขียว (Green Tea Extract) 250-500 มิลลิกรัมต่อหนึ่งวัน
  • เคอร์คูมิน (Curcumin) 500-1,000 มิลลิกรัมควรใช้ร่วมกับพริกไทยดำ เพื่อช่วยดูดซึม
  • ลูทีน (Lutein) 10-20 มก.
  • ซีแซนทีน (Zeaxanthin) 2-10 มก.
  • สารสกัดบิลเบอร์รี (Bilberry Extract) 80-160 มก.
  • วิตามินเอ (Vitamin A) 700-900 ไมโครกรัม (RAE) สำหรับผู้ใหญ่
  • แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) 4-12 Mg.
  • เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) 3-6 Mg. (เป็นแหล่งของวิตามินเอ)
  • วิตามินซี (Vitamin C) 75-90 มก. สูงถึง 500-1,000 Milligram ในบางกรณี
  • สารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) 100-300 Milligram

ปริมาณที่แนะนำ อาจแตกต่างกันไปตามความต้องการเฉพาะบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ หรือนักโภชนาการก่อนรับประทาน เพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุด

อาหารเสริม แนะนำสิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มใช้

ชาวอเมริกัน ใช้จ่ายเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ในการซื้ออาหารเสริม ซึ่งมีหลายประเภทและประโยชน์หลากหลาย การเลือกอาหารเสริมที่มีคุณภาพ และเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง จากองค์กรที่น่าเชื่อถือ เช่น US Pharmacopeia (USP)

ก่อนเริ่มใช้อาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะหากมีการใช้ยารักษาโรค เพื่อป้องกันปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น อาหารเสริมบางชนิดเช่นวิตามิน A, D และ K ไม่สามารถขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะได้ หากบริโภคเกิน อาจเกิดผลข้างเคียงในระยะยาว ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ผลเสียวิตามินแต่ละชนิด และการใช้สารอาหารจากอาหารสด ย่อมมีประโยชน์มากกว่า [3]

สรุป อาหารเสริม ที่เหมาะสม ช่วยดูแลสุขภาพได้ดี

อาหารเสริม บำรุงหัวใจและสายตา เป็นทางเลือกที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของหัวใจ และการมองเห็น โดยให้สารอาหารที่จำเป็น ต่อการทำงานของระบบต่างๆ อย่างเต็มที่ การเลือกใช้อาหารเสริมที่เหมาะสม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ สามารถช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด จากการดูแลสุขภาพ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

52